จี้หยินหยาง เสริมฮวงจุ้ย หยิน- หยาง เสริมพลังโชคลาภ พลังแห่งความสมดุล

91

จี้หยินหยาง เสริมฮวงจุ้ย หยิน- หยาง เสริมพลังโชคลาภ พลังแห่งความสมดุล

สัญลักษณ์หยิน – หยาง 

  • หยิน คือ ส่วนที่เป็นสีดำ มีหยาง คือ สีขาวอยู่ที่ส่วนหัว
  • หยาง คือ รูปสีขาว มีหยิน คือ จุดกลมสีดำอยู่ที่ส่วนหัว
หยินหยาง เสริมฮวงจุ้ย หยิน- หยาง เสริมพลังโชคลาภ พลังแห่งความสมดุล

หยินหยางคือสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นตัวแทนแห่งสัจธรรมของโลก หยินแสดงถึงสภาพการคงที่เปรียบเสมือนดิน
หยางแสดงถึงสภาพการเคลื่อนไหวเปรียบเสมือนน้ำ เมื่อการคงที่ปะทะการเคลื่อนไหวดังเช่นดินปะทะน้ำ
จะบังเกิดผลลัพธ์ซึ่งเป็นพลังอันมหัศจรรย์ของโลก และเป็นความลับแห่งจักรวาล พลังเหล่านั้นน้อยคนนักที่มีโอกาสได้สัมผัสอย่างแท้จริง…

หยิน-หยาง หรือกฏแห่งความสมดุลของธรรมชาติ เป็นปรัชญาของลัทธิเต๋าที่เชื่อว่าสรรพสิ่งบนโลกใบนี้จะต้องมีสิ่งคู่กันเสมอ

มีมืดก็ต้องมีสว่าง มีร้อนก็ต้องมีเย็น มีผู้หญิงก็ต้องมีผู้ชาย หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป หรือมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากหรือน้อยเกินไป
ก็จะเกิดภาวะไม่สมดุลซึ่งจะนำหายนะมาให้

หยิน-เป็นตัวแทนของความมืดมิด ไม่เคลื่อนไหว อ่อนล้า เศร้าโศก ตวามตาย ความหนาวเย็น ผู้หญิง
หยาง-เป็นตัวแทนของความกระตือรือร้น พลังงาน แสงสว่าง ผู้ชาย การเกิด การเคลื่อนไหวที่ไม่หยุดนิ่ง

หยางและหยินแม้จะมีลักษณะตรงกันข้ามกัน แต่ทั้งสองก็รวมกันเป็นสิ่งที่เรียกว่า เอกภาวะ ได้ หรือประสานกลมเกลียวกันโดยอาศัยความแตกต่างนั่นเอง หยางหยินเป็นหลักสำคัญของสวรรค์และแผ่นดิน

กฎของหยินยางแบ่งออกได้เป็น 4 ข้อคือ

  1. หยินหยางมี 2 สิ่งที่ตรงข้ามกันเสมอ

คนโบราณคิดแบบเข้าใจง่าย ๆ ว่า ด้านที่หันเข้าหาดวงอาทิตย์เป็น “พลังหยาง” ด้านที่หันหลังให้กับดวงอาทิตย์เป็น “พลังหยิน” แม้ว่าสิ่งของ 2 สิ่งจะอยู่ตรงข้ามกัน แต่ต่างก็มีหน้าที่อิสระต่อกัน สิ่งที่ตรงข้ามกัน 2 สิ่ง จะก่อให้เกิด หรือแปรเปลี่ยนทำให้เกิดสิ่งใหม่ ๆ ได้ เช่น การเคลื่อนไหวของดวงจันทร์กับดวงอาทิตย์ทำให้เกิดฤดูกาลต่าง ๆ ผู้ชายกับผู้หญิงทำให้เกิดลูกได้

หยาง ฟ้า สว่าง ซ้าย บน นอก เร็ว แข็ง ผู้ ชาย ร้อน เช้า
หยิน ดิน มืด ขวา ล่าง ใน ช้า อ่อน เมีย หญิง หนาว เย็น
  1. หยินหยางอาศัยซึ่งกันและกัน

สรรพสิ่งในโลกนี้แม้ว่ามี 2 สิ่งที่ตรงข้ามกัน แต่ก็ต้องอาศัยซึ่งกันและกันเพื่อความอยู่รอด และเพื่อประโยชน์ระหว่างกัน เช่น มีฟ้าจึงจะมีดิน ไม่มีฟ้าก็ไม่มีดิน มีรูปร่างจึงจะมีเงา เงาก็จะอาศัยตามรูปร่าง ไม่มีรูปร่างก็จะไม่เกิดเงา

  1. หยินหยางมีการขยายเพิ่มขึ้นและเสื่อมถอย

สิ่งของหรือเรื่องราวที่ตรงข้ามกัน 2 อย่าง มีการเคลื่อนไหวในลักษณะขัดแย้งกัน ฝ่ายหนึ่งจะมีการเพิ่มขึ้น ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งจะต้องลดลง เช่น อากาศร้อนกับอากาศเย็น เมื่ออากาศร้อนมาก อากาศเย็นก็จะน้อยลง จึงทำให้เรารู้สึกร้อน ขณะที่อากาศเย็นมากขึ้น นั่นคืออากาศร้อนน้อยลง เราจึงรู้สึกเย็นลง

  1. หยินหยางมีการแปรเปลี่ยน

สิ่งของหรือเรื่องราวต่าง ๆ เมื่อเพิ่มหรือลดลงมาถึงจุด ๆ หนึ่งแล้ว จะแปรเปลี่ยนไปเป็นอีกอย่างหนึ่ง เช่น เรื่องร้าย ๆ จะกลายเป็นดี

ในทางแพทย์จีน ได้ใช้กฎข้อนี้ในการรักษาโรค เช่น คนที่มีไข้สูงมาก ทำให้เกิดการสูญเสียพลังในร่างกายมาก ทำให้อุณหภูมิของร่างกายลดลง (เย็น) ทันที แพทย์จีนแทนที่จะรักษาโรคแบบหยาง ต้องเปลี่ยนมาเป็นรักษาโรคแบบหยินแทน

กฎข้อ 3 กับข้อ 4 มีความคล้ายคลึงกัน มีการแปรเปลี่ยนจะสถานะหนึ่งเป็นอีกสถานะหนึ่ง กฎข้อ 3 ให้ความหมายในเชิงปริมาณ เช่น หนาวมากหนาวน้อย ร้อนมากร้อนน้อย แต่กฎข้อ 4 เป็นการเปลี่ยนแปลงจากรูปร่างหนึ่งเป็นอีกรูปร่างหนึ่งก็ได้ เป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงรูปลักษณ์

กฏของหยินหยางนี้ เป็นเรื่องของความสมดุลย์ของธรรมชาติ สิ่งมีชีวิต และสังคม สรรพสิ่งในจักรวาลนี้จะมี 2 ด้านเสมอ เหมือนกับเหรียญมี 2 ด้าน ไม่มีสิ่งใด ๆ ที่จะสุดโด่งเพียงด้านเดียว ทั้ง 2 สิ่งนี้จะไม่มีการหยุดนิ่ง มีการเคลื่อนไหว พัฒนา แปรเปลี่ยน อยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดเปลี่ยนแปลงในเชิงปริมาณและคุณลักษณะ เช่น คนรวยอาจรวยเพิ่มขึ้น จนกลายเป็นเศรษฐี แต่การเพิ่มขึ้นนี้อาจเป็นเหตุทำให้กลายเป็นคนจนในทันทีก็ได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก yoamulet.blogspot.com

ความเห็นถูกปิด