ตำนานความศักดิ์สิทธิ์ “ไอ้ไข่” ศิษย์หลวงปู่ทวด

108

ตำนานความศักดิ์สิทธิ์ “ไอ้ไข่” ศิษย์หลวงปู่ทวด

 

“ไอ้ไข่” รูปปั้นเด็กอายุราวๆ 10 ขวบ สวมชุดลายพรางทหาร สวมแว่นตาดำ ชาวบ้านจะเรียกว่า “ไอ้ไข่” หรือ “ตาไข่” ตั้งอยู่ด้านหน้าศาลา มีตำนานเล่าขานจากชาวบ้านละแวกใกล้เคียงวัดว่า ในอดีตวัดเจดีย์แห่งนี้รกร้างมาเนิ่นนานเต็มทีแล้ว ได้บูรณะใหม่เมื่อราวๆ ปี 2500


ประวัติเรื่องราวของ “ไอ้ไข่” เล่าสืบต่อกันมาว่า ที่ตั้งวัดเจดีย์แห่งนี้เมื่อก่อนหลวงปู่ทวดวัดช้างให้ เกจิอาจารย์ดังสายปักษ์ใต้เมื่อครั้งเดินทางกลับมาจากกรุงศรีอยุธยาแวะมาปักกลด เดินธุดงค์อยู่บริเวณนี้เพื่อพักแรม ส่วนไอ้ไข่อายุก็ราวๆ 10 ขวบ เป็นลูกศิษย์ติดตามหลวงปู่มาด้วย

ปรากฏว่า…สถานที่แห่งนี้พบว่ามีทรัพย์สมบัติมากอยู่ พร้อมกันนั้นศาสนสถานก็เป็นสถานที่ซึ่งสำคัญมากจึงให้ไอ้ไข่สิงสถิตเฝ้าทรัพย์สมบัติและที่แห่งนี้เอาไว้

หลังปี 2500 ผู้ใดที่เข้ามานอนพักค้างอ้างแรมในวัดเจดีย์ ถ้าไม่เอ่ยชื่อไอ้ไข่ บอกกล่าวขอขมาแล้วล่ะก็ มักจะนอนไม่ได้ เรียกว่าถูกกวนทั้งคืน เคลิ้มๆ จะหลับก็จะรู้สึกเหมือนมีเด็กมาตีหัวบ้าง ดึงขา…ดึงแขนบ้าง

ราวปี 2526 พ่อท่านเทิ่ม เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ยุคนั้นได้จัดสร้างเหรียญบูชาไอ้ไข่รุ่นแรก พร้อมพัฒนาวัดเรื่อยมา ท่ามกลางพื้นที่สีชมพูยังมีความเคลื่อนไหวของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ หน่วยงานราชการจึงส่งทหารพรานหนึ่งกองร้อยมาตั้งฐานปฏิบัติการชั่วคราวที่วัดเจดีย์

ปรากฏว่า ตกดึกเมื่อบรรดาทหารกำลังหลับก็รู้สึกว่ามีเด็กมาดึงขา ดึงแขน เอาปืนมาเล่นตีหัวบ้าง ผลักปืนให้ล้มบ้าง จนนอนกันไม่ได้ทั้งคืน

รุ่งเช้า…จึงพากันไปสอบถามชาวบ้าน เล่าให้ฟังก็ได้ความกระจ่าง เอ่ยชื่อ “ไอ้ไข่” ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่า นับจากนั้นก็ไม่มีเหตุการณ์แปลกประหลาดเกิดขึ้นอีกเลย

กุมารเทพ “ไอ้ไข่” วัดเจดีย์ สามตัวตรงๆ มาแรงจริงๆ

เลข “ไอ้ไข่วัดเจดีย์” คึกคัก…ใกล้วันหวยออก แห่ไหว้ขอโชค “ไอ้ไข่” วัดเจดีย์ ฯลฯ เหล่านี้คือ

ตัวอย่างความดังแบบสุดๆ ชนิดเอาช้างมาฉุดก็ไม่อยู่ของ “ไอ้ไข่” รูปปั้นกุมารทองที่ตั้งอยู่ที่วัดเจดีย์

ศรัทธาความเชื่อบันดาลให้สุขสมหวังดังปรารถนา เรียกคลื่นกระแสศรัทธาผู้คนมาจากทั่วทุกสารทิศ พร้อมมาแก้บนมีให้เห็นเป็นประจักษ์เป็นประจำอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันกันแน่นขนัด

“ขอได้ ไหว้รับ”…ขออะไรมักจะได้สิ่งนั้น

“ศรัทธา”…นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้…“ลบหลู่”.

รัก-ยม

ที่มา : https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/thaitravel/1915720

ความเห็นถูกปิด