ตำนาน “ม่อนอังเกตุ” จ. เชียงใหม่

231

ตำนาน “ม่อนอังเกตุ” จ. เชียงใหม่

 

“ม่อนอังเกตุ” ยอดดอยสูงจากระดับน้ำทะเลที่ 1,840 เมตร อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าปางขุม บ้านปางขุม อำเภอสะเมิง เป็นต้นกำเนิดของลำน้ำสำคัญ 4 สาย คือ ขุนน้ำสา ขุนน้ำเลย ขุนน้ำแม่สาบ และขุนน้ำแม่จุม ไหลรวมสู่แม่น้ำปิง จาก “ม่อนอังเกตุ” มองเห็นผืนป่าฝั่งอำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน อำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่แตง ห้วยจ้อ ห้วยน้ำดัง ดอยหลวงเชียงดาว และดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ด้วย

ตามตำนานเล่าว่า “ม่อนอังเกตุ” เกี่ยวเนื่องกับ “ศาลเจ้าแม่อังเกตุ” ว่ามีแม่นางท่านหนึ่งนามว่า “อังเกตุ” เป็นหญิงชั้นสูงในวัง มีพระบิดาเป็น “พ่อพญา” ที่มีนิสัยชอบทำลาย เกลียดชัง “พญาต่อ” จึงกลายเป็นศัตรูกันมาตลอด “พญาต่อ” ล่วงรู้ว่า“พ่อพญา” รักแม่นางอังเกตุลูกสาวคนนี้สุดหัวใจ จึงคิดอุบายไปคาบแม่นางออกจากวัง แล้วนำมาทิ้งไว้ที่ม่อนแห่งหนึ่งบนท้องที่อำเภอสะเมิง “พ่อพญา” ออกตามหาจนเจอลูกสาว หมายจะรับลูกสาวกลับเวียงวัง แต่แม่นาง “อังเกตุ” ไม่ยอมกลับ และได้บอก“พ่อพญา” ว่าจะขออยู่ใช้กรรมให้หมดสิ้นบนดอยนี้

ด้วยความรักลูกสาว “พ่อพญา” จึงจัดส่งช้าง เสือ แม่นม และองครักษ์คู่ใจเพื่อมาดูแลลูกสาว แต่สุดท้ายแม่นางกำชับว่าหากสิ้นบุญแล้ว ก็ให้ฝังร่างของนางไว้ที่นี่ เมื่อถึงคราวสิ้นบุญร่างของแม่นางจึงถูกฝังไว้บนม่อนแห่งนี้ตามปรารถนา ชาวบ้านท้องถิ่นจึงได้นำชื่อของ “แม่นางอังเกตุ” มาตั้งเป็นชื่อม่อน นามว่า “ม่อนอังเกตุ” พร้อมกันนั้นก็ได้สร้างศาลเจ้าแม่อังเกตุไว้เพื่อเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านตราบจนกระทั่งปัจจุบัน

บน “ม่อนอังเกตุ” จะเป็นลานกว้างและเป็นที่ตั้ง “ศาลเจ้าแม่อังเกตุ” สามารถชมวิวธรรมชาติสวยๆได้ครบแบบ 360 องศา และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ชมทะเลหมอก ท่ามกลางทิวสนในฤดูหนาวยามเช้า ชมวิวขุนเขาสลับซับซ้อนในช่วงบ่าย และดื่มด่ำวิวพระอาทิตย์ตกยามเย็นได้อย่างสวยงามค่ะ

 

ที่มาข้อมูล : http://hotelandresortthailand.com/read/?p=27548
ภาพจาก : www.thaihrhub.com
ภาพจาก : doipangkhum.blogspot.com

 

ความเห็นถูกปิด