ท้าวเวสสุวรรณ(ท้าวกุเวร) เทพแห่งความมั่งคั่ง บันดาลโชคลาภ

158

ท้าวเวสสุวรรณ(ท้าวกุเวร) เทพแห่งความมั่งคั่ง บันดาลโชคลาภ

ท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัน) หรือในภาษาพราหมณ์เรียกว่า “ท้าวกุเวร” ถ้าในพระพุทธศาสนาจะเรียก “ท้าวไพสพ” เป็นอธิบดีแห่งอสูร หรือเจ้าแห่งภูตผีปีศาจทั้งหลายโดย ท้าวเวสสุวรรณ เป็นหนึ่งในท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ผู้คุ้มครองดูแลโลกมนุษย์ สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ประทับทางทิศเหนือมีอสูร รากษส และภูตผีปีศาจเป็นบริวารพร้อมถือว่าท่านเป็นหัวหน้าของท้าวจตุโลกบาล อันประกอบไปด้วย “พระอินทร์” (ท้าวธตรฐ) ปกครองโลกด้านทิศตะวันออก , “พระยม” (ท้าววิรุฬหก) ปกครองโลกด้านทิศใต้ และ “พระวรุณ” (ท้าววิรูปักษ์) ปกครองโลกด้านทิศตะวันตก

ลักษณะท้าวเวสสุวรรณ(ท้าวเวสสุวัณ)
ท้าวเวสสุวรรณ(ท้าวเวสสุวัณ) หรือท้าวกุเวร มีลักษณะแบบยักษ์มีกายสีทองหรือสีเขียว มือขวาถือกระบองประดับยอดด้วยดวงแก้วเป็นอาวุธ มือซ้ายแสดงท่ามุทรา สวมศิราภรณ์ทรงมงกุฎยอดน้ำเต้า สวมกรองศอ สวมเกราะเสื้อแขนสั้นสีน้ำเงินขาบเข้มแต่งกนกปลายแขนเสื้อแทนพาหุรัด นุ่งผ้าลายดอกพื้นเขียว กำไลมือ ข้อเท้า เป็นเครื่องตกแต่ง สนับเพลาลายดอกพื้นสีส้มอ่อน

ตำนาน ประวัติความเป็นมาท้าวเวสสุวรรณ(ท้าวจาตุมหาราช)
จากตำนานอาฏานาฏิยปริตร อาฏานาฏิยสูตร กล่าวไว้ว่า ในอดีตกาล เมื่อพุทธเจ้าเสด็จมาประทับ ณ เขาคิชฌกูฏ กรุงราชคฤห์ ท้าวจาตุมหาราช คือ ท้าวธตรฏฐ์ ท้าววิรุฬหก ท้าววิรูปักษ์ และท้าวเวสสุวรรณ(ท้าวกุเวร) พร้อมด้วยบริวารอันได้แก่ คนธรรพ์ กุมภัณฑ์ นาค และยักษ์ มาเฝ้าพระพุทธเจ้า

ท้าวจาตุมหาราช หรือที่รู้จักกันว่า ท้าวจตุโลกบาล( ผู้รักษาโลกทั้ง ๔) ซึ่งเป็นผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เมื่อได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ท้าวเวสสุวรรณ(ท้าวกุเวร) ได้กราบทูลว่า อมนุษย์ที่เป็นบริวารของท้าวจตุโลกบาล มีบางพวกที่เลื่อมใสพระพุทธองค์ บางพวกก็ไม่เลื่อมใสพระพุทธองค์ เพราะพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรม โดยให้ถือศีล ๕ คือ ให้ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ ละเว้นจากการลักทรัพย์ ละเว้นจากการประพฤติผิดในกาม ละเว้นจากการพูดเท็จ และละเว้นจากการเสพสุรา แต่เหล่าบริวาลของท้าวจตุโลกบาลรวมถึงมนุษย์ ยังละเว้นสิ่งเหล่านั้นมิได้ จึงไม่ค่อยเลื่อมใส พระสาวกของพระพุทธองค์ที่ประกอบวิปัสสนาธุระ ไปบำเพ็ญสมณธรรมในเสนาสนะป่าเปลี่ยว เมื่อไม่มีสิ่งป้องกัน อมนุษย์ก็จะรบกวนเบียดเบียนให้ลำบาก ขอให้พระองค์ทรงรับเอาเครื่องป้องกันรักษา คือ อาฏานาฏิยปริตรไว้ จะได้ประทานให้สาวกสวด จะทำให้อมนุษย์เลื่อมใส ไม่เบียดเบียนภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา และกลับจะช่วยคุ้มครองรักษาให้อยู่ผาสุข แล้วจึงกล่าว อาฏานาฏิยปริตร ขึ้นในเวลานั้นว่า วัปัสสิสสะ นะมัตถุ เป็นต้น

เมื่อพระพุทธองค์ทรงและรับโดยดุษณีภาพ ท้าวเวสสุวรรณ(ท้าวกุเวร) จึงกราบทูลต่ออีกว่า ผู้ที่เจริญอาฏานาฏิยปริตรนี้ดีแล้ว อมนุษย์จะไม่ทำร้าย ถ้าอมนุษย์ยังผืนกระทำจะแพ้ภัยตัวเอง จากนั้นพระพุทธเจ้าจึงนำสิ่งที่ท้าวเวสสุวรรณกราบทูลมาตรัสเล่าแก่ภิกษุทั้งหลาย ในภายหลังเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องกับท้าวจตุโลกบาลมีปรากฏอยู่ในหนังสือ โดยเฉพาะคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาและสถานที่ต่างๆ เช่น ยอดเขาทางด้านทิศตะวันตกที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง) จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งพระราชวังที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 รอบพระราชวังมีป้อมล้อมอยู่ทั้ง 4 ทิศ ทางทิศตะวันออกชื่อป้อมธตรฐป้องปก ทางทิศใต้ชื่อป้อมวิรุฬหกบริรักษ์ ทางทิศตะวันตกชื่อป้อมวิรูปักษ์ป้องกันและทางทิศเหนือชื่อป้อมเวสสุวรรณรักษา

 

ที่มา : https://www.pra9wat.com/ตำนาน-ความเชื่อ-เสริมดวง/เทพ-เทวดา-เทพเจ้า/ท้าวเวสสุวรรณ-ท้าวกุเวร/

ความเห็นถูกปิด