พระร่วงวาจาสิทธิ์ – ขอมดำดิน – เดโชดำดิน! ตำนาน – พงศาวดาร หรือ นิทาน !! (ตอน 2)
พระยานาคราชได้ฟังราชบุตรีก็โกรธแค้นพระเจ้ากรุงสุโขทัย จึงแปลงเป็นดาบสฤาษีมาพบ แล้วแกล้งทูลถามว่า มหาราชผู้ประเสริฐมาทำอะไรอยู่แถวนี้ และได้เห็นสิ่งใดประหลาดบ้าง พระเจ้ากรุงสุโขทัยก็บอกกับพระฤาษีว่ามารักษาพระอุโบสถศีล และที่ประหลาดนั้นก็ได้เห็นงูสองตัวสังวาสกัน นางงูมีรูปงาม หงอนแดง คอแดงประหลาด จึงคิดว่าชะรอยจะเป็นตระกูลนาคราชอันสูงศักดิ์ ไม่ควรมารักสังวาสงูดินตระกูลต่ำ จะเสียตระกูลไป จึงเอาไม้เท้าเขี่ยงูทั้งสองให้พรากออกจากกัน

พระยานาคราชได้ฟังก็เลื่อมใสยินดีในพระเจ้ากรุงสุโขทัย ทูลลากลับไปนาคพิภพ แล้วด่าว่าราชธิดาที่ลวงว่าจะลาไปรักษาศีล แต่กลับไปเล่นชู้สู่ชายชาติงูดินตระกูลต่ำ ฉะนั้นอย่าอยู่เมืองนาคต่อไปเลย จงไปปรนนิบัติรับใช้พระเจ้ากรุงสุโขทัยผู้มีพระคุณ ณ เขาหลวงเถิด
นางนาคได้ฟังบิดาบริพาสก็เกรงกลัว รีบอำลามาที่เขาหลวง แล้วนิมิตกายงามเฉิดฉายโสภีเป็นดรุณีรูปงามดังเทพธิดา ประดับภูษาอาภรณ์เพริศพริ้ง เข้าเฝ้าพระเจ้ากรุงสุโขทัย ณ ที่ทรงศีล เล่าความตามเป็นจริงทั้งหมดทูลถวาย พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชก็โสมนัสยินดีที่พระยานาคราชส่งบุตรีมาปรนนิบัติ ทั้งสองจึงสังวาสอยู่ด้วยกันตามประเพณีคดีโลก
นางนาคนั้นได้จัดเครื่องอุปโภคบริโภคอันเอมโอชด้วยฤทธิ์ของนาค แท่นที่ไสยาสน์ก็ประดับด้วยดอกไม้และเครื่องลูบไล้สุคนธมาลา ทั้งยังนวดคั้นพระหัตถ์ พระบาท และร่างกาย ปรนนิบัติอยู่ได้ ๗ ราตรีพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชก็ต้องเสด็จกลับคืนเมืองเพื่อว่าราชการ แต่รสเสน่หาของนางนาคนั้นละเอียดประหลาดกว่ามนุษย์อย่างน่าอัศจรรย์ จึงทรงปรารถนาจะพานางเข้าไปอยู่ในพระราชวังด้วย แต่เพื่อให้สมเกียรติจึงรับสั่งให้นางคอยอยู่ที่เขาหลวงก่อน จะกลับเข้าไปว่าราชการ ๗ วันแล้วจะจัดราชรถและขบวนโยธามารับนางเข้าไปสู่พระนคร
ครั้นกลับมาถึงกรุงสุโขทัย พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชก็ทรงวุ่นวายอยู่กับราชกิจ ทั้งยังมีพระสนมนางกำนัลที่โปรดปรานอีกมาก เลยทรงลืมกำหนดที่นัดกับนางนาคไว้
ฝ่ายนางนาคคอยพระสวามีจนครบกำหนด ๗ วันตามสัญญา ก็ยังไม่เห็นเสด็จมารับ จึงคิดว่าถูกทอดทิ้งเสียแล้ว ชะรอยว่ากรรมที่ได้เบียดเบียนผู้ถือศีลภาวนาให้เสียสิกขากรรมมาถึงตัว จึงคิดจะกลับไปยัง นาคพิภพ แต่ก็เกิดเสียวในครรภ์ที่มีสัตว์มาจุติในนั้น ครั้นจะพากลับไปเมืองนาคให้คนอื่นรู้ก็จะอัปยศอดสู จึงคิดจะสำรอกต่อมโลหิตในครรภ์คืนให้พระสวามี นางจึงไปที่ริมลำธาร วางผ้าแดงกับพระธำมรงค์ที่ทรงมอบให้ดูต่างหน้า แล้วสำรอกต่อมโลหิตไว้ในวงพระธำมรงค์ อธิษฐานว่าอย่าให้มีภัยอันตรายใดๆ ประกาศฝากลูกน้อยไว้กับหมู่เทพยดาอารักษ์แห่งเขาหลวง แล้วร่ำไห้จากไปสู่นาคพิภพด้วยความโทมนัส
ในกาลนั้นมีคางคกตัวหนึ่งหากินอยู่แถวลำธาร ครั้นได้กลิ่นคาวโลหิตจึงตรงมาที่พระธำมรงค์ แล้วกลืนต่อมโลหิตเข้าไปพร้อมกับพระธำมรงค์ แต่ต่อมโลหิตนั้นเป็นมนุษย์ที่มีอานุภาพด้วยเชื้อของนาค ทำให้คางคกตัวนั้นถึงแก่ความตาย มนุษย์ผู้มีบุญญาธิการจึงได้อาศัยอยู่ในรูปของคางคกที่ไม่เน่าเปื่อย เร่ร่อนสัญจรอยู่ในย่านนั้น
ฝ่ายพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช เมื่อล่วงพ้น ๗ วันไปแล้วจึงได้สติระลึกถึงนางนาค จัดขบวนราชรถและบริวารโยธาออกไปรับ แต่ก็ไม่ได้พบนางนาค ตระเวนหาจนทั่วเขาหลวงถึง ๓ วัน ถามใครก็ไม่เห็น จึงจำต้องเสด็จกลับด้วยความเศร้าโศก ทรงเสียดายนางนาคดั่งเสียเมือง
ขอขอบคุณ : https://mgronline.com/onlinesection/detail/9600000029158
เผยแพร่: 22 มี.ค. 2560 10:57 โดย: สุวิชชา เพียราษฎร์
ความเห็นถูกปิด