พระอินทร์ต้องสาปให้เสื่อมฤทธิ์ รบกับอสูรให้พ่ายแพ้ทุกครั้งไป ตอนที่ 2

142

พระอินทร์ต้องสาปให้เสื่อมฤทธิ์ รบกับอสูรให้พ่ายแพ้ทุกครั้งไป ตอนที่ 2

พระอินทร์ล้างคำสาป
พระอินทร์และเหล่าเทวดาที่หนีรอดมาได้ จึงรีบตรงไปยังไวกูณฐ์โลกเพื่อขอความช่วยเหลือจากพระนารายณ์ ด้วยเมตตาพระนารายณ์ จึงทำพิธีกวนเกษียรสมุทร (กวนน้ำอมฤต) เพื่อช่วยล้างคำสาปของมหาฤๅษีทุรวาส และเพื่อเพิ่มพลังของเหล่าเทวดาให้กลับคืนมา อีกทั้งยังจะทำให้เหล่าเทวดานั้นเมื่อดื่มกินน้ำอมฤตแล้วจะมีความเป็นอมตะอีกด้วย โดยพระนารายณ์ออกอุบายว่า ให้เหล่าเทวดานั้นแสร้งทำเป็นอ่อนน้อมถ่อมตนยอมรับว่าต้อยต่ำกว่าพวกเหล่าอสูรก่อน แล้วให้ชักชวนพวกอสูรให้มาร่วมกวนน้ำอมฤตกันเพื่อความเป็นอมตะของทั้ง 2 ฝ่าย โดยให้พักเรื่องสงครามกันไว้ชั่วคราวก่อน ให้หันมาปรองดองกันชั่วขณะ แล้วช่วยกันรีบออกจัดหาโอสถสมุนไพรมาเพื่อใช้ในการทำน้ำอมฤต

เหล่าอสูรก็หลงกลด้วยอยากมีความเป็นอมตะเช่นกัน และคิดว่าพวกตนนั้นก็เป็นต่อเหล่าเทวดาอยู่ แม้การกวนน้ำอมฤตเสร็จ พวกตนก็จะต้องได้ดื่มกินน้ำอมฤตในจำนวนมากก่อน เศษที่เหลือเพียงน้อยนิดค่อยแบ่งให้เหล่าเทวดาได้ดื่มกินทีหลัง เมื่อมองเห็นดังนั้นจึงตกลงที่จะร่วมกวนน้ำอมฤตในพิธีกวนเกษียรสมุทรกับเหล่าเทวดา แล้วต่างฝ่ายต่างออกระดมเก็บโอสถสมุนไพรที่จะนำมาใช้ในการกวนน้ำอมฤตในทันที ครั้นได้ฤกษ์กวนน้ำอมฤต ณ กลางเกษียรสมุทร มหาเทพทั้ง 3 อันได้แก่ พระพรหม พระนารายณ์และพระศิวะ ได้มาปรากฏองค์เป็นประธานในพิธี ฝ่ายเหล่าเทวดาและอสูรต่างก็ทยอยขนเอาโอสถสมุนไพรที่จัดหามาทั้งหมดเทลงในเกษียรสมุทรในทันที (เกษียรสมุทรนี้ตั้งอยู่ในทิศตะวันออกของจักรวาล มีน้ำสีขาว คือเกษียรแปลว่าน้ำนม ไหลเต็มอยู่ตลอดปี)

พระนารายณ์ จึงมีเทวบัญชาให้เหล่า เทวดาและอสูรไปถอนเอาภูเขา “มันทระ” (मन्दरा – MANDARA) ซึ่งมีความสูงพ้นพื้นดิน 11,000 โยชน์ และหยั่งฐานรากอยู่ใต้ดินอีก 11,000 โยชน์ มาปักกลางเกษียรสมุทรเพื่อใช้เป็นไม้กวน แล้วทรงมีเทวบัญชาให้ “พญานาควาสุกรี” (ผู้เป็นพี่ของพญาเศษะ(พญาอนันตนาคราชหรือพญานาคพันเศียรที่เป็นแท่นบรรทมของพระนารายณ์เวลาประทับอยู่เหนือเกษียรสมุทรหรือนารายณ์บรรทมสินธุ์) มาพันวนรอบภูเขานี้เพื่อใช้เป็นดั่งเชือกปั่นให้แกนภูเขาหมุนกวนตัวยาสมุนไพรและน้ำในเกษียรสมุทรให้เข้ากัน แล้วออกอุบายว่า ให้เทวดาฉุดด้านหางและอสูรฉุดด้านหัว เพราะด้านหัวพญานาคต้องใช้กำลังมากจึงต้องอาศัยผู้มีฤทธิ์เดช เวลานั้นพวกอสูรก็ทะนงตัวว่ามีอานุภาพเกรงไกรฝ่ายเทวดาเองก็ทำตามอุบายของพระนารายณ์ที่โอนอ่อนตามพวกอสูรจึงหลงกลพากันไปฉุดทางหัวซึ่งลำบากกว่าเพราะการกวนใช้เวลานานมากพญานาคต้องเหนื่อยและล้าเพราะถูกฉุดอยู่ตลอดเวลาเมื่อทนไม่ไว้ก็จะคายพิษออกมาที่หนึ่งไปถูกอสูรตายไปเป็นจำนวนมาก บ้างก็ปวดแสบปวดร้อน จึงเป็นเหตุให้เหล่าอสูรมีหน้าตาผิวพรรณตะปุ่มตะป่ำนับแต่นั้นเป็นต้นมา

เวลานั้นเองเขามันทระที่เป็นไม้กวนถูกใช้กดลงไปแรงเกินไปซึ่งอาจทำให้พื้นทะลุลงไปยังโลกมนุษย์ พระนารายณ์จึงแบ่งภาคอวตารมาเป็นเต่ากูรมะ ใช้กระดองของตนรองรับแรงกระแทกจากเขามัทระ มิให้พื้นทะลุและทำให้โลกแตกได้ ปางนี้มีชื่อว่า กูรมาวตาร (कूर्म अवतार – KURMA AVATAR)

ในระหว่างการกวนน้ำอมฤตมีอสูรปลาตนหนึ่งคิดร้ายหวังจะทำลายโลกจึงมาคอยตอดทำลายเขาให้พังลงมา พระนารายณ์ในร่างเต่าจึงเข้าสังหารอสูรปลามิให้มาขวางการกวนน้ำอมฤต ในระหว่างการกวนน้ำอมฤตซึ่งใช้เวลานานมากจึงบังเกิดน้ำอมฤตและสรรพสิ่งวิเศษรวม 14 อย่างผุดขึ้นมา ตามตำนานพิธีกวนเกษียรสมุทร

 

ที่มา : https://www.pra9wat.com/ตำนาน-ความเชื่อ-เสริมดวง/ตำนาน-สิ่งศักดิ์/ตำนานพระอินทร์ถูกสาป/

ความเห็นถูกปิด