วิธีเก็บเงินในกระเป๋าสตางค์เรียกทรัพย์

92

วิธีเก็บเงินในกระเป๋าสตางค์เรียกทรัพย์

1. กระเป๋าสตางค์ใบเก่าแสนหลุดลุ่ยทำให้เงินทองรั่วไหล

เมื่อใช้กระเป๋าสตางค์ใบเก่งมาสักระยะหนึ่งก็ถึงเวลาพิจารณาว่ามีร่องรอยชำรุดมากน้อยแค่ไหน ตามหลักฮวงจุ้ยแล้วเชื่อว่า กระเป๋าสตางค์ไม่ควรฉีกขาด หรือมีด้ายหลุดลุ่ยออกมา เพราะจะมีผลให้เงินทองหลุดลุ่ยรั่วไหลได้ง่าย เก็บเงินไม่อยู่เหมือนเงินทะลุออกมาสมกับสภาพกระเป๋า

ทั้งนี้ ในหลักความเป็นจริงแล้ว การใช้กระเป๋าสตางค์ที่มีสภาพยับเยินก็ยังทำให้บุคลิกดูไม่ดี รวมถึงเงิน (จริง ๆ) ยังมีโอกาสหล่นหายตามรอยรั่วของกระเป๋าสตางค์อีกด้วย

2. กระเป๋าสตางค์ควรใช้เก็บเงินอย่างเดียว

มีความเชื่อที่บอกว่า เงินไม่ชอบกระเป๋าสตางค์ที่อ้วนตุง จึงทำให้ไม่ค่อยมีรายรับและเก็บเงินไม่อยู่ ซึ่งปัจจุบันนี้เชื่อว่าแต่ละคนคงมีบัตรต่าง ๆ เช่น บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต บัตรสะสมแต้มตามร้านอาหาร นามบัตร หรือแม้กระทั่งใบเสร็จที่ยัดไว้ตามมุม

นอกจากจะไม่ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยแล้วยังบ่งบอกถึงวินัยที่ไม่ดีของผู้ใช้และทำให้กระเป๋าสตางค์สวย ๆ ของคุณเสียรูปทรง

วิธีแก้ คือ ควรทิ้งใบเสร็จหรืออะไรที่ไม่จำเป็นออกไป แยกออกเป็น 2 ใบ กระเป๋าสตางค์ (มีซิปไว้ใส่เหรียญหน่อย) และกระเป๋าเก็บบัตร หรืออย่างน้อยแยกเป็นสัดส่วนก็ยังดี

นอกจากนี้ยังมีอีกความเชื่อที่ว่ากระเป๋าสตางค์ที่ดีควรมีซิป เพราะจะยิ่งช่วยเสริมให้เก็บเงินอยู่ยิ่งขึ้น

3. หัวใจหลักอยู่ที่การจัดระเบียบการเก็บเงินในกระเป๋าสตางค์

จะเก็บเงินในกระเป๋าสตางค์อย่างไรก็ได้แต่ต้องให้เป็นระเบียบ แยกเหรียญ แยกแบงก์ และบัตรต่าง ๆ ให้เป็นที่เป็นทาง ไม่ควรปล่อยให้แบงก์ยับหรือมีรอยพับ

ด้วยเหตุนี้จึงมีความเชื่อว่า กระเป๋าสตางค์ใบยาวดีกว่ากระเป๋าสตางค์ใบสั้น เพราะสามารถวางแบงก์ลงไปได้โดยที่ไม่ต้องพับและเรียกทรัพย์ได้ดีกว่า บางคนก็เชื่อว่าควรเรียงแบงก์ให้หันไปในทางเดียวกันอีกด้วย

4. อย่าปล่อยให้กระเป๋าสตางค์ว่างเปล่า

การมีเงินเก็บอยู่ในกระเป๋าสตางค์ถือเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบรูณ์ ควรเก็บเงินไว้ในจำนวนที่พอเหมาะ นอกจากจะแสดงถึงความอุดมสมบรูณ์แล้วยังเผื่อในกรณีที่เราจำต้องใช้เงินสด การมีบัตรอย่างเดียวไม่สามารถไปได้ทุกที่นะ

หลีกเลี่ยงกระเป๋าสตางค์มือสอง

5. หลีกเลี่ยงกระเป๋าสตางค์มือสอง 

กระเป๋าสตางค์มือสองนั้นจะมีพลังงานของเจ้าของเก่าหลงเหลืออยู่ ซึ่งคุณไม่มีทางรู้หรอกว่า พลังงานนั้นจะเป็นพลังงานดีหรือพลังงานร้าย ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการเก็บเงินของคุณ

6. เลือกสีกระเป๋าให้ถูกโฉลกเหมือนเวลาเลือกสีเสื้อผ้า

ในเรื่องของสีที่ถูกโฉลก อันที่จริงแล้วมีหลายสำนักที่ออกมาแนะนำ แต่เราจะขออิงจากของหมอช้าง สีกระเป๋าสตางค์ที่เหมาะกับแต่ละวันเกิด โดยมีรายละเอียดดังนี้

– วันจันทร์ : สีขาว ครีม น้ำตาล หรือดำไปเลย

– วันอังคาร : สีชมพู สีเหลือง และสีน้ำตาล

– วันพุธกลางวัน : สีเขียวและสีม่วง

– วันพุธกลางคืน : สีขาวและสีม่วง

– วันพฤหัสบดี : สีส้ม

– วันศุกร์ : สีฟ้าและสีชมพู

– วันเสาร์ : สีดำ สีน้ำตาล และสีเทา

– วันอาทิตย์ : สีแดงและสีเขียว

7. พกเครื่องรางประจำตัวไว้ในกระเป๋าสตางค์

เสริมสร้างสิริมงคลกับตัวเองที่จะช่วยให้เก็บเงินได้มากขึ้น โดยเครื่องรางของขลังที่เขาว่าพกแล้วดีก็มีด้วยกันหลายสิ่ง เช่น

เงินขวัญถุง

เงินขวัญถุง หรือ เงินก้นถุง ก็คือเงินที่เจ้าของกระเป๋าสตางค์ตั้งใจเก็บไว้โดยที่ไม่ใช้โดยเชื่อว่าเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง ทำให้เงินทองไหลเข้ากระเป๋า มีเงินเก็บมากขึ้น ซึ่งเงินขวัญถุงนั้นก็มาได้จากหลายแหล่งขึ้นอยู่กับความเชื่อแต่ละคน เช่น ได้มาจากญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ, จากพระจากเจ้า, เก็บตามหลักนักษัตร, เก็บเนื่องจากเป็นเลขลงท้ายปีเกิด

ในขณะที่บางคนก็แอบซุกแบงก์ตามซอกลืบ โดยเลือกเก็บแบงก์ที่เป็นเลข 9 เยอะ ๆ , แบงก์เลข 4 เป็นต้น

เครื่องรางจีนเสริมโชคลาภ

ลักษณะหน้าตาจะเป็นเหรียญจีนโบราณ 3 เหรียญเรียงกันแล้วร้อยด้วยด้ายสีแดง ถือเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นเอกภาพอันทรงพลังระหว่างฟ้าและดิน คุณสมบัติของเครื่องรางนี้ คือ ทำให้เงินทองไหลมาเทมา

8. ปฏิบัติดีต่อกระเป๋าสตางค์ กระเป๋าสตางค์ก็จะตอบแทนคุณ

เมื่อถึงบ้านให้นำกระเป๋าสตางค์ออกมาวางในตำแหน่งที่เหมาะสม ในที่ที่เหมาะกับการเก็บของมีค่า หลีกเลี่ยงการวางบนพื้น บนโต๊ะอาหาร ในห้องน้ำ หรือที่ไหนก็ตามที่คิดว่าสะดวก ควรรักษาให้เหมือนกับสมบัติชิ้นหนึ่งที่มีค่า

ตามหลักฮวงจุ้ยแล้วการทะนุถนอมและมอบความรักให้กับกระเป๋าสตางค์ จะช่วยให้กระเป๋าสตางค์นั้นดึงดูดเงินเข้ามาในชีวิตคุณมากขึ้น มีใช้ไม่ขาด อีกทั้งการเก็บกระเป๋าสตางค์เป็นที่เป็นทางยังทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการหาบ่อย ๆ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ddproperty.com

ความเห็นถูกปิด