สุดยอดพระคาถาบูชา พระซุ้มกอ

1,875

คาถา บูชา พระซุ้มกอ

” พุทธัง อาราธนาณัง ธัมมัง อาราธนาณัง สังฆัง อาราธนาณัง
พุทธัง ประสิทธิ เม ธัมมัง ประสิทธิ เม สังฆัง ประสิทธิ เม”
แล้วว่า “อิติปิโส พระครูราติ อะสังวิสุโลปุสะภุพะ” อีก ๙ จบ
แล้วอฐิษฐานขอพร บทนี้ได้มาจากพระครูปลัดสมปอง อาศรมบ้านสบายใจ

พระกำแพงซุ้มกอ เป็นพระศิลปะสุโขทัยยุคต้น สร้างประมาณ พ.ศ.๑๙๐๐ สมัยพญาลิไท ขุดค้นพบหลายกรุ โดยครั้งแรกพบ ณ วัดพระบรมธาตุ โดยเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต แห่งวัดระฆัง ต่อมา พ.ศ.๒๔๙๐ และ ๒๕๐๑ ก็พบอีกแต่ไม่มาก พ.ศ.๒๕๐๕ และพ.ศ.๒๕๐๙ พบจากกรุวัดพิกุลทอง, วัดฤาษี วัดหนองลังกา และวัดซุ้มกอ

พระซุ้มกอ

ทั้งนี้เมื่อ พ.ศ.๒๓๙๒ เจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โตแห่งวัดระฆัง ได้ไปเยี่ยมญาติที่เมืองกำแพงเพชร ได้พบศิลาจากรึกที่วัดเสด็จ จึงทราบว่ามีพระเจดีย์ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำปิง ฝั่งเมืองนครชุมเก่า ท่านจึงได้ดำริให้เจ้าเมืองออกสำรวจแล้วก็พบเจดีย์ อยู่ ๓ องค์ อยู่ใกล้ๆ กัน แต่ชำรุดมาก จึงได้ชักชวนให้เจ้าเมืองรื้อพระเจดีย์เก่าทั้ง ๓ องค์ รวมเป็นองค์เดียวกัน แต่เมื่อรื้อถอนแล้วจึงได้พบพระเครื่องสกุลกำแพงเพชรเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และแตกหักตามสภาพกาลเวลา

ในครั้งนั้นท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต ท่านเห็นว่าเศษพระที่แตกหักนั้นยังมีพุทธคุณอยู่ท่านจึงนำกลับมายังวัดระฆังจำนวนหนึ่งพร้อมกับเศษอิฐและเศษหิน และบันทึกใบลานเก่าแก่ที่ได้บันทึกเกี่ยวกับวิธีการสร้างพระสกุลกำแพงเพชร จึงนำเอาเศษพระกำแพงที่แตกหักมาบดเป็นส่วนผสมในการสร้างพระสมเด็จของท่านจนขึ้นชื่อโด่งดังไปทั่วประเทศ เพราะท่านได้สร้างตามสูตรการสร้างพระซุ้มกอกำแพงเพชร ดังนั้นจะเห็นได้ว่าพระสมเด็จในยุคแรกๆ จะมีลักษณะโค้งมนเหมือนกับพระซุ้มกอเพราะว่าพระซุ้มกอกำแพงเพชรเป็นต้นแบบของพระสมเด็จวัดระฆังนั่นเอง

พุทธของคุณพระกำแพงซุ้มกอนั้นไม่ต้องพูดถึง มีครบเครื่องไม่ว่าเรื่องเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ตลอดจนเรื่องโชคลาภ จนมีคำพูดที่พูดติดปากกันมาแต่โบราณกาลว่า “มีกูแล้วไม่จน” ถ้าไปในที่ต่างๆ อยากกินน้ำ หาน้ำไม่ได้ ท่านให้อาราธนาพระใส่ไว้ในปาก หายอยากน้ำแล ถ้าเอาพระไว้บนศีรษะแล้ว ปืนแลหน้าไม้ยิงมาเป็นห่าฝนก็ไม่ถูกตัวเรา เป็นต้น

อาจารย์ราม วัชรประดิษฐ์ นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์พุทธศิลป์ เจ้าของ “www.aj-ram.com ” อธิบายให้ฟังว่า  พระกำแพงซุ้มกอแบ่งเป็นมีกนก และไม่มีกนก มีทั้งพิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง พิมพ์ขนมเปี๊ยะ หลากหลายสีขึ้นอยู่กับการเผา เนื้อผ้าเป็นดินกำแพงเพชรมีว่านดอกมะขามปรากฏอยู่ ซุ้มเป็นตัว ก ไก่ เป็นที่มาของชื่อพระ พระกำแพงซุ้มกอเป็นพระที่ขึ้น ณ ลานทุ่งเศรษฐี จ.กำแพงเพชร มีหลายกรุ เช่นวัดบรมธาตุ วัดพิกุล วัดฤาษี ได้รับการนำมาเข้าชุดเบญจภาคีเพื่ออาราธนาขึ้นคอแทนพระกำแพงลีลาเม็ดขนุนเนื่องจากมีความสมดุล (Balance) มากกว่า เป็นพระที่มีอิทธิพลของลังกาองค์พระสง่างามหนาใหญ่แสดงให้เห็นในศิลปะสุโขทัยอย่างชัดเจน

พระกำแพงซุ้มกอที่มีชื่อเสียงในวงการมีอยู่หลายองค์ เช่น องค์เสมา องค์จำเริญ วัฒนายากร องค์เสี่ยอุดม กวัสราภรณ์ องค์ซุ้มกอดำ แต่ที่ดังที่สุดได้แก่ พระกำแพงซุ้มกอพิมพ์ใหญ่มีกนกเนื้อสีแดง องค์เจ้าเงาะ ผู้ที่ค้นพบคือ อาจารย์เชียร ธีรศานต์ ซึ่งพบจากก้นหลุม ท่านเป็นคนตั้งชื่อให้เนื่องจากผิวด้านหน้าและด้านหลังองค์พระมีราดำ หรือ รารัก เกาะติดแน่นเต็มไปหมด ซึ่งราดังกล่าวเป็นพืชชนิดหนึ่งเมื่อพระได้อายุราดำจะเกิดขึ้นหากนำพระขึ้นจากกรุใหม่ๆ แล้วพยายามล้างผิวพระจะเสีย

ขอบคุณรูปภาพพระชุดเบญจภาคี ที่อยู่ในความครอบครองของนายสุขธรรม ปานศรี หรือที่คนในวงการรถยนต์รู้จักในชื่อ “เฮียกุ่ย” นักสะสมพระหลวงพ่อทวดชุดเนื้อทองคำ รวมทั้งพระชุดหลักๆ ที่ขึ้นชื่อว่าสวยแชมป์ทั้งรัง

ที่มา: ขอบคุณข้อมูลจาก palungjit.org และ komchadluek.net

 

ความเห็นถูกปิด