หลวงพ่อปุย ปุญญสิริ วัดเกาะ สุพรรณบุรี
พระคณาจารย์ผู้มีเวทย์วิทยาคมแก่กล้า มีพลังจิตสูงสามารถกำราบปราบภูตผีต่างๆได้ (ไล่ผีได้) ทั้งยังมีความเชี่ยวชาญในวิชาอาคมต่างๆ ความเฉียบขาด ความดุ และวาจาศักดิ์สิทธิ์ประดุจพระร่วงของหลวงพ่อปุยเป็นที่กล่าวขานกันมากจนบรรดานักเลงใหญ่และเสือร้าย(โจร)ทั้งหลายของเมืองสุพรรณต่างเกรงกลัวบารมีของท่าน จนท่านได้รับสมญานามว่า “ปากพระร่วง”
หลวงพ่อปุย ปุญญสิริ
หลวงพ่อมีนามว่า ปุย นามสกุล รักกูล เกิดเมื่อวันที่ ๓๑ เดือนพฤษภาคม ปีพุทธศักราช ๒๔๓๘ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะแม ณ.บริเวณศาลเจ้าพ่อพระปู่หมื่น บ้านบางงาม ตำบลวังหว้า อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี โยมบิดาชื่อ ฉลาด โยมมารดาชื่อ แรด มีอาชีพทำนา หลวงพ่อเป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้อง๕ คน
ในวัยเยาว์อายุ๕ขวบ บิดามารดาได้นำไปฝากไว้กับหลวงปู่เฒ่าพราย วัดเกาะ พระอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงยุครุ่นเดียวกับหลวงพ่อเนียม วัดน้อย ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลวงลุงของหลวงพ่อปุยท่าน ให้เล่าเรียนหนังสือเพื่อจะได้มีความรู้
เหตุที่เรียกหลวงปู่เฒ่า เป็นเพราะแรกเริ่มหลวงพ่อปุยท่านเป็นผู้เรียกก่อน และต่อมาชาวบ้านในยุคนั้นก็เรียกตามท่าน และด้วยหลวงปู่พรายท่านเป็นพระที่พรรษาสูง อายุมากถึง๙๐กว่าปีด้วย
วัยเด็ก หลวงพ่อปุยท่านเป็นเด็กที่มีลักษณะเข้มแข็ง จะเล่นอะไรจะทำอะไรต้องเป็นหัวหน้าคน ติดจะเป็นคนจริง แต่ถือคติที่ว่า ไม่รังแกใครก่อน แต่ใครจะมารังแกไม่ได้
ท่านอยู่วัดเกาะตั้งแต่วัยเด็กถึงเติบโตเป็นหนุ่ม ซึ่งนับเป็นระยะเวลาหลายปี ระหว่างที่อยู่วัดเกาะท่านได้ศึกษาอักขระไทยและขอม วิปัสสนากรรมฐาน แพทย์แผนโบราณและเวทมนต์คาถาอาคมต่างๆจากหลวงปู่เฒ่าพราย แล้วเวลาว่างท่านยังพายเรือไปตามแม่น้ำบ้านคอยเพื่อไปศึกษาวิชาต่างๆจากหลวงพ่อวัดใหม่โรงหีบอีก(วัดตั้งอยู่ไม่ไกลกันนัก) จึงทำให้ท่านมีความรู้ในด้านต่างๆอย่างมากมาย
หลวงพ่อปุย ปุญญสิริ
วัยหนุ่มมีรูปร่างสูงใหญ่ แข็งแรงบึกบึน ใจคอกล้าหาญเฉียบขาด มีความเป็นผู้นำ ทั้งยังมีวิชาอาคม พรรคพวกนักเลงทั้งหลายจึงยกย่องให้เป็นลูกพี่ บิดามารดาเห็นว่าต่อไปสักวันอาจจะพลาดพลั้งเกเรไปเป็นเสือเป็นโจรได้ จึงให้กลับมาช่วยทำงานที่บ้าน
ปีพุทธศักราช ๒๔๕๘ ท่านได้เข้ารับราชการประจำการเป็นทหารอยู่ ๒ ปี ซึ่งในยุคนั้นตรงกับช่วงวงครามโลกครั้งที่๑พอดี
เมื่อปลดจากประจำการแล้ว ท่านได้อุปสมบทเพื่อทดแทนคุณบิดามารดาและผู้มีพระคุณทั้งหลาย
อุปสมบทเมื่ออายุ ๒๓ ปี เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๗ เดือนพฤษภาคม ปีพุทธศักราช ๒๔๖๑ ณ. พัทธสีมาวัดเกาะ อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมี
หลวงพ่อปลื้ม วัดพร้าว เป็นพระอุปัชฌาย์
หลวงพ่อพริ้ง วัดวรจันทร์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
หลวงพ่ออินทร์ วัดราษฎรบำรุง (หลวงพ่อวัดใหม่โรงหีบ) เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า “ปุญญสิริ”
หลวงพ่อปุย ปุญญสิริ
หลังจากอุปสมบท ก็ได้อยู่จำพรรษาที่วัดเกาะ ได้ศึกษาพระธรรมวินัย และวิปัสสนากรรมฐานควบคู่กันไปอีก
หลวงพ่อปุยท่านเป็นผู้ใฝ่การศึกษา ( คนโบราณเรียกว่าผู้คงแก่เรียน ) จึงได้เพียรศึกษาหาวิชาความรู้จากพระอาจารย์หลายๆท่าน เช่น
– ศึกษาอักขระไทยและขอม วิปัสสนากรรมฐาน แพทย์แผนโบราณ และวิชาอาคมต่างๆจาก หลวงปู่เฒ่าพราย วัดเกาะ และหลวงพ่อวัดใหม่โรงหีบ
– ศึกษาการแสดงพระธรรมเทศนาแบบโบราณจากหลวงตาอ่วม วัดเกาะ ( การแสดงพระธรรมเช่นนี้หาได้ยากใกล้จะสูญหายแล้ว)
– ศึกษาวิปัสสนากรรมฐาน และวิชาอาคมต่างๆจากหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา , หลวงพ่อปลื้ม วัดพร้าว , หลวงพ่อพริ้ง วัดวรจันทร์
– แลกเปลี่ยนความรู้ด้านพุทธาคม แพทย์แผนโบราณ และด้านต่างๆกับหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ , หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย เป็นต้น
อุปนิสัยอีกอย่างของท่านคือ เป็นผู้มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี จึงทำให้ท่านมีสหธรรมิกและสนิทชิดชอบกับพระเกจิอาจารย์ดังมากมายหลายท่าน เช่น
หลวงพ่อปุย ปุญญสิริ
หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ
ท่านเจ้าคุณเมตตาวิหารี วัดคูหาสวรรค์
หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย
หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์
หลวงปู่แขก วัดหัวเขา
หลวงพ่อปอ วัดบ้านบึง
หลวงพ่อกอง วัดโพธาราม
หลวงพ่อแช่ม วัดราษฎรบำรุง
หลวงพ่อเจริญ วัดธัญญวารี
หลวงตาจวน วัดไก่เตี้ย เป็นต้น
หลวงพ่อปุย ปุญญสิริ
ที่มาข้อมูล : https://www.tnews.co.th
ความเห็นถูกปิด