อะแวสะดอ ตาและ” จอมโจรขมังเวทย์
ตอนที่ 2
กริชประจำตัวของอะแวสะดอ ตาและ
ขุนพันธรักษ์ราชเดชได้ทราบฤทธิ์เดช และความเหี้ยมโหดของ อะแวสะดอ มาเป็นอย่างดี เพราะสืบข่าวทราบมาว่าตำรวจเคยยิงกับมันมาแล้วถึง 4 ครั้ง มีทั้งเคยยิงกันกลางวัน และกลางคืนแต่ไม่สามารถจับตัวได้ อะแวสะดอ ตาและ จึงเหิมเกริมมากขึ้น เมื่อมันรู้ว่าตำรวจหน่วยไหนก็ปราบปรามมันไม่ได้ ในขณะที่จอมโจรอะแวสะดอ กำลังลำพอง และผยองในความยิ่งใหญ่ของมันอยู่นั้น หน่วยของขุนพันธรักษ์ราชเดชยังไม่เคยปะทะกับอะแวสะดอฯ เลย ดังนั้นโจรใหญ่อย่างอะแวสะดอ จึงประกาศว่ามันไม่เคยกลัวใครแม้แต่ตำรวจสงขลาที่ขุนพันธรักษ์ราชเดชสังกัดอยู่ คำประกาศของจอมโจรอะแวสะดอเท่ากับเป็นการประกาศท้ารบกับขุนพันธรักษ์ราชเดช โดยชักธงเหลืองขึ้นเหนือยอดเขาบูโด ซึ่งขุนพันธรักษ์ราชเดชก็ยินดีรับคำท้านั้น เมื่อมีการจัดตั้งกองปราบปรามพิเศษ ขึ้นเพื่อดับรัศมีเจ้าพ่อบูโดในครั้งนั้น ขุนพันธรักษ์ราชเดชยอมรับว่าอะแวสะดอมีของขลังมากเพราะตำรวจชุดอื่นๆ เคยยิงกับมัน 7- 8 หน ยิงกันซึ่งๆ หน้า เสร็จแล้วต่างคนต่างถอยทำอะไรกันไม่ได้ ตอนหลังมันกำเริบใหญ่มาก ประกาศว่าตำรวจปัตตานี ตำรวจยะลา และนราธิวาสมันไม่กลัวเลย เพราะพบกันมาแล้วหลายครั้ง เห็นทำอะไรมันไม่ได้ แต่ตำรวจสงขลายังไม่เคยลอง ขุนพันธรักษ์ราชเดชเองคิดอยู่ว่า คนที่มีอาคม ไสยเวท ยิงไม่เข้า ฟันไม่เข้า อย่าง อะแวสะดอ มันต้องสู้กันแบบ ยิงถึงตัวหรือต่อยหรือจับตัวมัดเอาให้ได้
ขุนพันธ์ถอดด้ามกริชนี้ออก ตัวด้ามเดิมของกริชเล่มนี้จะเป็นรูปพังกะหรือรูปนกกระเต็น และได้นำมาห่อด้วยกาบหมาก ต่อมาจึงทำด้าม กับกระบังขึ้นมาใหม่อย่างที่เห็นในรูปภาพ
วันหนึ่งชาวบ้าน วิ่งกระหืดกระหอบมาบอกว่า พวกอะแวสะดอ ลงมาแล้ว มาทั้งโขยง เพื่อต้องการตามขนเสบียงที่ตีนเขา ขุนพันธรักษ์ราชเดชดูฤกษ์ยามว่า คืนนั้นวันพุธอยู่ทางทิศใต้ ถูกทางผีหลวง และหลวงเหล็ก ฉะนั้นต้องไปอยู่ตอนต้นผีหลวงเหล็ก คือทางทิศเหนือ ซึ่งอยู่ห่างจากกองเสบียง มีต้นไม้รำไร ๆ กลางคืนก็แอบได้ คณะขุนพันธรักษ์ราชเดชถือปืนยืนเตรียมยิง แต่ก่อนหน้านั้นในคณะขุนพันธรักษ์ราชเดชตกลงกันไว้แล้วว่า ถ้าเกิดยิงกันก็ให้ขุนพันธรักษ์ราชเดชยิงก่อนแล้วจึงค่อยให้คนอื่นยิงตาม ต่อไปก็ให้หยุดยิงทันที เพราะขุนพันธรักษ์ราชเดชจะเป็นคนวิ่งเข้าไปประชิดตัวมันอีก เมื่อได้ยินเสียงคนเดิน คณะขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้ตะโกนบอกแสดงตนว่าเป็นตำรวจ แต่มันด่ากลับมา ขุนพันธรักษ์ราชเดชก็ยิงปืนไป 2 นัด ลูกน้องยิงซ้อนไปเป็นนัดที่ 3 จากนั้นขุนพันธรักษ์ราชเดชก็วิ่งเข้าไปหาตัวมันทันที ตอนนั้นไม่ทราบว่าใครมายืนอยู่ตรงหน้าขุนพันธรักษ์ราชเดชอยู่ห่างเพียงเมตรกว่า ขุนพันธรักษ์ราชเดชกระชากปืนยิงตรงแสกหน้าแต่มันกลับเฉย
ขอบคุณข้อมูลจาก Nirundorn Lokna
ขอบคุณที่มาภาพและข้อมูล : http://goosanook.blogspot.com/2016/07/blog-post_16.html
ความเห็นถูกปิด