อะแวสะดอ ตาและ” จอมโจรขมังเวทย์ ตอนที่ 3

318

อะแวสะดอ ตาและ” จอมโจรขมังเวทย์

ตอนที่ 3

ขุนพันธรักษ์ราชเดชยิงมันอีกจนหมดกระสุน จนมันก็ล้มลง แล้วพรรคพวกของมันก็หนีกระเจิงขึ้นเขาไป ขุนพันธรักษ์ราชเดชบอกให้ลูกน้อง 2 คนเฝ้าศพไว้ นอกนั้นตามวิ่งตามพวกที่เหลือไป เมื่อวิ่งตามไปได้สักครู่ ก็เกิดยิงกันที่เกิดเหตุเหตุ ขุนพันธรักษ์ราชเดชจึงวิ่งกลับไปลงอีก เพราะกลัวว่าพรรคพวกโจรจะไปแย่งศพ ขณะที่วิ่งนำหน้ามานั้นไปสะดุดอะไรก็ไม่รู้จนล้มลงปืนหลุดจากมือ เมื่อหาปืนได้ไม่ทันบรรจุกระสุนปรากฏว่ามี หม่อมสะอ้านตำรวจอีกคนยิงไอ้โจรที่ห่างจากที่เกิดเหตุสัก 10 กว่าเมตร ตำรวจ 2 นายข้างล่างวิ่งหลบกระสุนกับโคนต้นไม้ ยิงจนลูกปืนหมดทุกคน หม่อมสะอ้านถึงกับตะลึงงัน เพราะแกยิงโจรตายแล้ว แต่มันยังเดินยังยืนได้ พอหม่อมสะอ้านตั้งสติได้ก็เข้าไปยิงด้วยปืนยาว กระสุนก็ไม่ออก ยิงด้วยปืนสั้นกระสุนก็ไม่ออก ขุนพันธรักษ์ราชเดชเลยใช้หมัดต่อย กระชากสนับมือไม่ทัน พวกตำรวจทุกคนเข้าชกวงในกัน ไม่รู้ว่าหมัดใครต่อใครเพราะท้องฟ้ายังไม่สว่าง ผลที่สุดกว่าจะจับมันได้เกือบ 30 นาทีจึงยอมจำนน และขุนพันธรักษ์ราชเดชใส่กุญแจมือมันทันที มันบอกว่า “อย่าฆ่าผม” ขุนพันธรักษ์ราชเดชถามว่ามึงเป็นใคร มันตอบว่า “ผมอะแวสะดอ นายอย่าฆ่าผม” ขุนพันธรักษ์ราชเดชเรียกลูกน้อง ๆ ออกมาทั้งหมด ขุนพันธรักษ์ราชเดชบอกมันว่า ไม่ฆ่าหรอก แล้วที่ถูกกระสุนล้มฟุบตรงโน้นใครกันล่ะ มันบอกว่ามันเอง แต่พอเห็นตำรวจเผลอ เลยลุกขึ้นหนี พอฟ้าสว่างคณะของขุนพันธรักษ์ราชเดช 3- 4 คน พยายามแกะเครื่องรางของอะแวสะดอ มันผูกกับลวดแข็งแกะไม่ออก ขณะที่แกะเครื่องราง อะแวสะดอ คงรำคาญเลยกระชากลวดจนขาดแล้วมันก็ขว้างเข้าป่าไป ขุนพันธรักษ์ราชเดชเก็บมาได้จึงถามว่านี่อะไร มันบอกว่า ซ้องหมูป่า

สถานที่ฝังศพ อาแวสะดอ ตาเละ ปัจุบันถูกทิ้งร้าง

ตอนที่ขุนพันธรักษ์ราชเดชล้มลงไป ได้ไปทับเอากริชที่มันเหน็บอยู่ นึกว่าเป็นปืนจึงได้แย่งแล้วโยนออกไป ขุนพันธรักษ์ราชเดชไปค้นมาได้ ปรากฏว่าฝักกริชแตกหมดได้มาแต่เพียงหัวกริชและใบ และที่น่าทึ่งประการหนึ่งก็คือ ตอนที่ขุนพันธรักษ์ราชเดชยิงมันเข้าปาก 9 เม็ด มันอมกระสุนไว้ ปากของมันไม่มีรอยแตก ฟันไม่หัก ส่วนที่ถูกหน้าผากนั่นก็เหมือนถูกเล็บขีด ส่วนที่ยิงตามตัวไม่ถูกเลย เสื้อผ้าอะแวสะดอฯ สวมใส่ก็ไม่เห็นรอยขาด แม้แต่น้อย
จากหลักฐานที่ขุนพันธรักษ์ราชเดช ชี้แจงในภายหลังทั้งหมดนี้นับว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์มิใช่น้อย เรื่องของจอมโจรอะแวสะดอ เป็นตำนานชีวิตของมหาโจรที่น่ากลัวเพียงไร การที่อะแวสะดอ ถูกยิงแล้วล้มลงนั้นใช่ว่าจะถูกอำนาจปืนทำลายให้บาดเจ็บ แต่มันเป็นว่าหมดทางสู้ จึงแกล้งทำอุบายล้มลง เพื่อให้ขุนพันธรักษ์ราชเดชเชื่อว่ามันถูกยิงตายไปแล้ว สำหรับเครื่องรางของขลังในตัวอะแวสะดอตาและนั้น จากบันทึกของขุนพันธรักษ์ราชเดช ก็มีตับคนเป็นเหล็ก 2 ชั้น เคราคนเป็นทองแดง 1 แผ่น ซ้องหมูป่า 1 อัน ผ้าประเจียดคนไทย 1 ผืนแขวนอยู่ที่คอใช้ลวดผูกแขวน ต่อมาเมื่อทางการรู้เข้าจึงริบของกลางที่เป็นเครื่องรางของขลังของ อะแวสะดอไว้ทั้งหมด
ทางการตำรวจจับตัวอะแวสะดอ ได้เรียบร้อยแล้ว จึงนำตัวไปที่สถานีตำรวจนราธิวาสขังไว้ที่นั่น 3 วัน มีประชาชนตั้งแต่ปัตตานี ยะลา กลันตัน พากันไปดูหน้าจอมโจรเจ้าพ่อเทือกเขาบูโดแน่นโรงพัก หลังจากที่อะแวสะดอ ถูกย้ายที่ขุมขังไปอยู่ในเรือนจำได้ไม่เกิน 10 วัน มันก็รู้ว่าชะตากรรมของตนเอง มันตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยการกินยาพิษ มันดับชีวิตของมันด้วยมือมันเอง ก่อนที่จะถูกประหารชีวิต หรือถูกขังตายในคุก การที่ผู้ร้ายการเมือง และอาชญากรรมหมายเลขหนึ่งแห่งบูโด อย่างอะแวสะดอจบชีวิตลงทำให้ความสงบสุขกลับคืนมาสู่แผ่นดินเมืองใต้ส่วนนั้น ขุนพันธรักษ์ราชเดชได้รับการยกย่องสรรเสริญอย่างสูงจากพวกคนไทยมุสลิม หรือแม้แต่พวกชาวไทยพุทธชายแดนไทยมลายู และชาวไทยอิสลามตั้งฉายาให้ขุนพันธ์ฯ ว่า “รายอกะจิ” หรืออัศวินเล็กพริกขี้หนู

ขอบคุณข้อมูลจาก Nirundorn Lokna
ขอบคุณที่มาภาพและข้อมูล : http://goosanook.blogspot.com/2016/07/blog-post_16.html

ความเห็นถูกปิด