อะแวสะดอ ตาและ” จอมโจรขมังเวทย์ ตอนที่ 5
โตะอิหม่ามอับดุลลอฮ เบน ฮุสเสน ดูวอปูปูกับอาแวสะดอ เคยไปพบอาแวสะดอตอนท่านลงมาจากเขาที่บ้านสุไหงบาตู(ตะโละมาเนาะ) อาแวสะดอให้ลูกน้องคอยจดข้อร้องเรียนจากชาวบ้านที่เดือดร้อนหรือโดนโกงจากพวกข้าราชการหรือคนใหญ่โต
ครั้งที่สองไปดูตอนที่อาแวสะดอถูกจับล่ามโซ่บนศาลาข้างทุ่งนาตรงข้ามเปนสนามฟุตบอลตาดีกาบ้านจำปากอใกล้สะพานลอย
ปัจจุบันท่านยุ่ที่บ้านค่าย นราธิวาส
ต้นมังคุดป่าอายุกว่าร้อยปีที่อาแวสะดอชอบพาลูกน้องมานั่งการร้องเรียนจากชาวบ้าน
เมื่อถึงจุดนี้สายสืบสกุลได้ขาดตอนลงรู้เพียงว่าลูกคนโตที่ชื่อสามะ แต่งงานแล้วมีลูกชาย 2คน มีคนหนึ่งชื่ออาแว เป็นเด็กที่มีรูปร่างสูงใหญ่กว่าเด็กทั่วไปและใจร้อนมุทะลุดุดัน เหมือนกับ”สะดอ”ช้างศึกของปู่ที่เป็นแม่ทัพ จึงเรียกชื่อเด็กคนนี้ว่า อาแวสะดอ นามสกุล “ตาเละ” ทั้งอาแวสะดอ ตาเละ / อาแวสะดอ ตาและ สองคนนี้มีเส้นทางชีวิตคล้ายๆกัน ต่างกันที่อาแวสะดอมุสลิมละหมาดห้าเวลา ไม่สักยันต์ ไม่ใช้เครื่องรางของขลัง ไม่บูชาภูตผีปีศาจ ไม่เอาไสยศาสตร์และมนต์ดำ มีความคงกระพันยิงฟันแทงไม่เข้าเหมือนกับท่านปู่เพราะอัลลอฮให้ รวบรวมสมัครพรรคพวกสืบทอดอามานะห์ความรับผิดชอบต่อจากท่านปู่เป็นผู้ดูแลเขตสายบุรี ยี่งอ ระแงะ และเทือกเขาบูโด ลงจากยอดเขามานั่งใต้ต้นมังคุดป่าในหมู่บ้านเดือนละครั้งเพื่อรับข้อร้องเรียนจากชาวบ้านโดยให้สมุนเป็นคนจดลงบันทึกไว้ในสมุด แล้วก็จะไปจัดการบำบัดทุกข์บำรุงสุข ในยุคสมัยไม่มีไฟฟ้าใช้ และการเดินเท้าคือพาหนะคู่กายลุยไปทั่วหุบเขาลำเนาป่า ชาวบ้านจำนวนมากถูกข้าราชการ เจ้าหน้าที่ หรือผู้มีอิทธิพลรังแก ลูกเมียใครสวยๆก็ฉุดไปข่มขืน โกงเงิน โกงทอง โกงที่ทำกิน ฆ่าชาวมลายูทิ้งข้างทางอย่างไม่กลัวเกรงอาญาเพราะคนไทยมีความเชื่อว่า “แผ่นดินไทยศักดิ์สิทธิ์ทุกอย่างยกเว้นกฏหมาย” อาแวสะดอมุสลิมคนนี้ไปช่วยเหลือเอาของกลับส่งคืนให้เจ้าของและให้ความเป็นธรรมจนได้รับการชื่นชมจากชาวบ้านกลายเป็นวีรบุรุษโรบินฮูดแห่งเขาบูโด ซึ่งเป็นผู้ปกป้องชาวบ้านมลายูยากจนในแถบเทือกเขาบูโดให้รอดพ้นจากการถูกกดขี่ขูดรีดข่มเหงจากเจ้าหน้าที่รัฐมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ และข้าราชการรัฐสันดานโจร เมื่อเป็นเช่นนี้การใส่ร้ายว่าอาแวสะดอมุสลิมเป็นโจรชั่วที่คิดแบ่งแยกดินแดน ข้อหาคลาสสิคก็ถูกรายงานขึ้นไปทางกรุงเทพ จึงมีคำสั่งแต่งตั้งชุดปราบปรามของท่านขุนพันธ์ และสุดท้ายชีวิต อาแวสะดอมุสลิมถูกไม้ทุบจนน่วมทั้งตัวแล้วจับกรอกน้ำกรดชนิดเข้มข้นจนเสียชีวิตคาห้องขังบนโรงพัก ก่อนจะให้ญาติมารับศพไปฝังที่สุสาน กุโบร์โต๊ะบีแด หลังปั้มน้ำมันคาลเท็ก ปัจจุบันกลายเป็นสุสานร้าง ชาวมุสลิมแถบนั้นไปใช้บริการสุสานใหม่ กุโบร์โต๊ะกอดอ ที่อยู่ถัดไปนั้นเอง ..
<> หลายปีต่อมา ระหว่าง 25 – 28 เมษายน พ.ศ. 2491 เจ้าหน้าที่รัฐยกกองกำลังเข้าปราบกลุ่มชาวบ้านที่ ตำบลดุซงญอ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ด้วยข้อหาเป็นกบฏแบ่งแยกดินแดน มีจอมพล ป. เป็นนายกรัฐมนตรี และ “ตอนเช้า ตำรวจราว 28 นาย นำโดย ร.ต.อ. บุญเลิศ เลิศปรีชา ยกเข้ามาที่ตลาดดุซงญอ”
<> เมื่อวันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2497 ท่านหะยีสุหลง ลูกชายคนโต และสหายอีกสองคนถูกฆ่าผ่าท้องยัดปูนแท่งเอาศพไปทิ้งที่เกาะหนูเกาะแมว ทะเลสงขลา ด้วยข้อหาเป็นกบฏแบ่งแยกดินแดน มีจอมพล ป. เป็นนายกรัฐมนตรี และ “บุญเลิศ เลิศปรีชา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เชิญตัวไปพบ”
ขอบคุณข้อมูลจาก Nirundorn Lokna
ขอบคุณที่มาภาพและข้อมูล : http://goosanook.blogspot.com/2016/07/blog-post_16.html
ความเห็นถูกปิด