เรื่องเล่าลึกลับ (พระจูงหมา แม่ชีอุ้มแมว) จากอีสานเข้าเมืองหลวง

127

เรื่องเล่าลึกลับ (พระจูงหมา แม่ชีอุ้มแมว) จากอีสานเข้าเมืองหลวง

 

สำหรับเรื่องเล่า”พระอุ้มสุนัขชีอุ้มแมว” จากที่แอดไม่นเพียงพอจะเรียบเรียงได้ พบว่าเดิม เป็นเมื่อราวปี พ.ศ 2545 ได้มีเหตุนึงเกิดขึ้นในหมู่บ้านเล็กๆ ที่นึงใน จังหวัดสกลนคร

ตำนานเล่าว่า ณ.ช่วงเย็นได้มีรูปถ่ายนึงเดินลากสุนัขสีดำผ่านเข้ามาในหมู่บ้าน ซึ่งราษฎรบ้านนอกมีความเห็นว่าระยะเวลานั้นใกล้ค่ำแล้ว ก็เลยนิมนต์ให้พระรูปดังกล่าวข้างต้นเข้ามานอนพักที่บ้านตน

จวบจนกระทั่งรุ่งเช้าพรุ่งนี้ กลับทำให้พบว่าราษฎรที่ให้พระเข้าไปนอนนั้น กลายเป็นศพนอนนิ่งเสียชีวิตกันทั้งยังบ้านแบบไม่เคยรู้ต้นสายปลายเหตุ..!! ไม่แค่นั้นพวกสัตว์เลี้ยงต่างๆที่อยู่ในบ้านก็สูญหายหายไปด้วย

หลังจากนั้นมาประชาชนในหมู่บ้านดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นก็เริ่มกลัว ถ้าหากว่าใครกันแน่มองเห็นพระลากหมาดำธุดงค์เดินผ่านมาเวลาใด ก็จำเป็นที่จะต้องวิ่งหนี และก็ห้ามไม่ให้เข้ามาในบ้านตนโดยเด็ดขาด เนื่องจากพวกเขาต่างมั่นใจว่าโน่นน่าจะเป็นปอบที่เปลี่ยนร่างมาเอาชีวิตคนภายในหมู่บ้านนั่นเอง

เรื่องราวสยองขวัญกลับมาเกิดขึ้นซ้ำสองในหมู่บ้านเดียวกันอีกคราว เมื่อครั้งที่มีแม่ชีคนนึงเดินอุ้มแมวไปตามบ้านต่างๆ ซึ่งประชาชนที่ไม่ทราบเลยเปิดบ้านให้พัก ตอนเช้าก็เสียชีวิตอีกเหมือนกัน..!!

เรื่องสยดสยองขณะนั้น ก็เลยเปลี่ยนเป็นอีกทั้งพระแล้วก็แม่ชี ที่คาดว่าน่าจะเป็นผีปอบออกก่อกวนในหมู่บ้าน ตราบจนกระทั่งราษฎรรวมทั้งหมอปราบผีต่างร่วมมือกันประกอบพิธีขับไล่ไสส่งผีปอบในตามแบบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งจากนั้นก็ไม่มีผู้ใดเคยเจอพระลากสุนัขหรือชีอุ้มแมวกันอีกเลย..!!

เรื่องเล่าดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นก็เสมือนจะเงียบสงบลง แต่ว่าและก็เกิดเหตุการณ์เชิญขนหัวยืนขึ้นอีกทีในปีเดียวกันนั่นเอง..!! เมื่อมีข่าวสารปรากฏว่าเจอพระลากสุนัขแล้วก็ชีอุ้มแมวอีกคราว แต่ว่าครั้งนี้กลับมาปรากฏกายอยู่ในกรุงเทวดาแทน

เรื่องราวดังที่กล่าวมาแล้วอาจจะไม่ใช่เพียงแค่คำพูดปกติ เพราะเหตุว่าเคยจนถึงเปลี่ยนเป็นข่าวสารที่เผยแพร่ลง หนังสือพิมพ์ เวลานี้กันด้วย

เนื้อข่าวสารกล่าวว่ามีประชาชนเจอพระลากสุนัขรวมทั้งชีอุ้มแมว ซึ่งเวลานี้ได้หนีจากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมทั้งไปแอบอาศัยอยู่ที่บ้านร้างที่นึง ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านตรงข้างหลังวัดม่วง เขตหนองพระจันทร์ม แถวบางแคนี่เอง..!!

จากศูนย์ข่าวอ้างถึงว่า มีราษฎรเคยประสบพบเห็นบุคคลดังที่กล่าวมาแล้ว เดินไปๆมาๆอยู่ด้านในตรอก รวมทั้งพื้นที่ใกล้กันในเวลานั้นด้วย แม้กระนั้นก็ไม่พบว่ามีคนตายเวลานี้ กลับเปลี่ยนเป็นหมากับแมวที่อยู่ในตรอกตอนนั้นหายเรียบ..

ซึ่งประชาชนบางบุคคลมีความคิดว่า หรือโน่นน่าจะเป็นความสามารถของทั้งยังพระและก็แม่ชีที่เป็นผีปอบแน่ๆเลย..!!

พูดได้ว่าข่าวซุบซิบตอนนั้นเล่นเอาพวกเด็กๆในเมืองหลวง บางทีอาจรวมทั้งคนแก่บางบุคคลต่างพากันขวัญผวากับเรื่องเล่าที่เกิดขึ้น ไม่เท่านั้นคนแก่บางบุคคลก็มักเล่าให้เด็กฟัง ประมาณว่าเปลี่ยนเป็นนิทานหลอกเด็กไปซะอีก..

แต่เรื่องราวดังที่กล่าวมาข้างต้นก็เป็นที่แย้งกันในยุคนั้น กับกระแสข่าวลือการไปปรากฏอยู่ดังที่นู่นที่นี้เยอะไปหมด

เคยมีหลักฐานบันทึกเอาไว้ในหนังสือเกี่ยวกับการพบเจอ แถมยังกล่าวถึงขนาดที่ว่าครั้งนึงตำรวจยังเคยจับอีกทั้งพระแล้วก็แม่ชีที่ว่าเป็นปอบได้อีกด้วย..แต่ว่าเพียงพอเผลอประเดี๋ยวเดียว ทั้งสองก็หายไปอย่างเร็วจากสถานีตำรวจ เหลือทิ้งเอาไว้แค่เพียงแมวกับสุนัขให้ได้มองต่างหน้าเพียงเท่านั้น

จนตราบเท่าเรื่องเล่าดังที่กล่าวถึงมาแล้วเบาๆเงียบหายไปเองตามเวลา บ้างก็ว่าพระลากหมากับชีอุ้มแมวนั้น ได้หนีไปอยู่ที่อื่นๆแล้ว ก็เลยไม่มีผู้ใดประสบพบเห็นทั้งสองอีก

ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงก็เป็นเพียงแค่เรื่องเล่าที่ขาดหลักฐานชัดแจ้ง

ขอขอบคุณที่มา : https://board.postjung.com/1203663

ความเห็นถูกปิด