เรื่องเล่าเรือนกาหลง วัดอัมพวัน เปรตกลายเป็นเทพธิดา
เปิดเรื่องเล่าเรือนกาหลงที่ยังคงอยู่ ณ วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี จากเปรตเป็นเทพธิดา ด้วยการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน วิรัช จรรยารักษ์ หรือ “เจ้าขุนทอง” อายุ 69 ปี หลานแท้ๆของหลวงพ่อจรัญ บอกเล่าให้รายละเอียดถึงการปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน สำหรับบุคคลทั่วไปที่ต้องการมาที่วัดว่าจะมีแบบ 3 วัน และ 7 วัน…โดยแบบ 3 วันสามารถไปลงทะเบียนได้ที่วัดทุกวันศุกร์ ก่อน 4 โมงเย็น
และ…จะลาศีล (กลับบ้าน) ก่อนบ่ายโมงของวันอาทิตย์
ส่วนการเข้าปฏิบัติธรรมแบบ 7 วัน สามารถไปลงทะเบียนได้ที่วัดทุกวันโกนก่อน 4 โมงเย็น เช่นกัน และลาศีลในวันโกนถัดไป แต่สำหรับเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะจะต้องนำหนังสืออนุญาตจากผู้ปกครองนำติดมาด้วย ซึ่งสามารถใช้วิธีเขียนระบุอนุญาตให้มาปฏิบัติธรรมกี่วัน พร้อมเบอร์โทรศัพท์ สำเนาบัตรประชาชน
เมื่อลงทะเบียนแล้วผู้ปฏิบัติสามารถนำสัมภาระเข้าไปเก็บยังที่พัก โดยจะมีที่ให้อาบน้ำและเปลี่ยนเป็นชุดปฏิบัติธรรมและลงมารอที่อาคารภาวนา 1 ชั้นบน ในเวลาประมาณ 17.30 น. ซึ่งจะมีท่านพระครูสอนกรรมฐานเบื้องต้น และปฏิบัติต่อเนื่องทุกวันคือ…การสวดมนต์ ทำวัตรเช้า เดินจงกรม นั่งกรรมฐาน กราบพระ สวดมนต์ทำวัตรเย็น และก็เดินจงกรม นั่งกรรมฐาน
พระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธมฺโม) เป็นพระนักพัฒนา พระนักเทศน์ และพระวิปัสสนาจารย์ แนวทางการสืบทอดพระพุทธศาสนาของท่านเน้นหนักที่การสั่งสอนเรื่อง “กฎแห่งกรรม” และเน้นการพัฒนาจิตใจคนด้วยการทำวิปัสสนากรรมฐานด้วยหลักสติปัฏฐาน 4 แบบพองหนอ-ยุบหนอ
นอกจากนี้ ท่านยังเป็นผู้ที่ส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนหมั่นสวดมนต์ด้วย พุทธชัยมงคลคาถา (พาหุงมหากา) เพื่อเป็นเครื่องเจริญสติอย่างแพร่หลายอีกด้วย
“ถ้าท่านตั้งใจปฏิบัติธรรม โดยกินน้อย พูดน้อย นอนน้อย ทำความเพียรให้มาก แล้วไม่สนใจใครทั้งหมด ตัดปลิโพธกังวลให้หมด (พะว้าพะวัง ห่วงโน่น ห่วงนี่ ห่วงนั่น) ท่านจะไม่ขาดทุน”
ขอบคุณที่มาข้อมูล : https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1639678
ความเห็นถูกปิด