เรื่องเล่า ทางเดินใต้ดินจากเพชรบุรีมาราชบุรี ตอนที่ 1
ผมอ่านพบเรื่องนี้จากตอนหนึ่งในหนังสือ “หมอสูนคนดี” ซึ่งเขียนโดยคุณเอนก นาวิกมูล เขียนไว้เมื่อ 28 สิงหาคม 2544 และตีพิมพ์เมื่อ พ.ศ.2551 โดยเรื่องนี้ หมอสูน หงษ์ทอง ซึ่งเป็นคนเก่าแก่ของจังหวัดราชบุรี ฟังมาจากพระอาจารย์ปั่น วัดเขาเหลือ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์อีกทอดหนึ่ง ….เรื่องนี้เป็นเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ผู้อ่านต้องใช้วิจารณาณเอาเองนะครับ…อาจจะยาวไป..แต่ก็น่าติดตามครับ
หมอสูน หงษ์ทอง
ผู้เล่า ซึ่งฟังเรื่องนี้มาจาก
พระอาจารย์ปั่น วัดเขาเหลือ
เรื่องมีอยู่ว่ามีพระสี่รูป ชวนกันไปสำรวจเขาหลวงในเพชรบุรี เพราะถ้ำเขาหลวงนั้นเปรียบประดุจอัญมณีอันงามงด ทั้งปรากฏคำบอกเล่ามาแต่โบราณว่า บางสาขามีของวิเศษเป็นที่ต้องการของผู้คน บางถ้ำก็มีคนพวกหนึ่งอาศัยอยู่ดังเรียกว่า คนเมืองลับแล เคยมีคนเห็นแกลบที่พวกเมืองลับแลทิ้งไว้แต่ไม่เคยพบตัว ส่วนถ้ำใหญ่ที่เรียกว่าถ้ำเขาหลวง เมื่อลงบันไดไปแล้วจะเห็นหินงอก หินย้อยประดับประดาเป็นอัศจรรย์อยู่ทั่วไป
ครั้นลงไปถึงจนพื้นล่าง จะเห็นห้องโถงกว้างใหญ่ แม้วงตระกร้อก็เข้าไปเล่นได้ถึงสองสามวง แหงนมองขึ้นไปข้างบนเห็นปล่องอากาศ มีแสงส่องสว่างลงมาเป็นลำ รอบๆ ถ้ำมีพระพุทธรูปที่พระเจ้าแผ่นดินและคนแต่ก่อนสร้างเอาไว้มากมาย ถ้ำนั้นถึงยามเทศกาลสงกรานต์ ก็มีคนหลั่งไหลกันลงมาไม่ขาด แม้สุนทรภู่มหากวีก็ยังเคยเขียนพรรณนาไว้ในนิราศเมืองเพชรอย่างยืดยาว
กล่าวถึงพระทั้งสี่ หลังจากเที่ยวถ้ำต่างๆ ไปพักใหญ่ก็หลงทาง รู้สึกว่ายิ่งเดินยิ่งลึก ที่สุดก็หาทางกลับไม่ถูก หันไปทางไหนก็ล้วนมีแต่ความมืดมนอนธกาล ต้องเกาะคลำจีวรกันไปเหมือนคนเสียตา
ขณะกำลังเหนื่อยเพลียและเริ่มสับสน พระทั้งสี่ได้ยินเสียงปี่พาทย์ราดตะโพนดังแว่วมาแต่ไกล พระซึ่งกำลังหมดหวังรู้สึกใจชื้นขึ้นมา ก็พยายามเดินหาต้นเสียง แต่แม้จะตะเกียกตะกายอย่างไรก็หาไม่ถูก สักพักหนึ่งได้ไปพบที่แห่งหนึ่งเข้า มีกำแพงสูงสองชั่วคนล้อมรอบเป็นมณฑล แต่กำแพงช่างอัศจรรย์ประตูทางเข้าสักประตูก็ไม่มีเสียเลย ต้องเดินวนไปวนมาอยู่อย่างนั้นไม่เป็นอันทำอะไร
ที่มา:
เอนก นาวิกมูล. (2551). หมอสูน คนดี. กรุงเทพฯ : แสงดาว. (หน้า 133-137)
http://rb-history.blogspot.com/search/label/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%A5
ความเห็นถูกปิด