เรื่องเล่า ทางเดินใต้ดินจากเพชรบุรีมาราชบุรี ตอนที่ 3

230

เรื่องเล่า ทางเดินใต้ดินจากเพชรบุรีมาราชบุรี ตอนที่ 3

ด้วยความกลัวว่าจะถูกกิน พระสามรูปกระซิบกระซาบปรึกษากันว่า เราควรจะหนีให้พ้นตึกนี้ด้วยวิธีไหน และถ้าหากจะจัดการยักษ์ เราจะจัดการมันด้วยวิธีใด เพราะถ้าไม่ลงมือทำเสียก่อน ไม่ช้ามันคงจะฆ่าเราแน่่ ผิดถูกเอาตัวรอดไว้ก่อน ค่อยไปปลงอาบัติเอาภายหลังเถิด

ถ้าเขาหลวง เพชรบุรี ที่มาของภาพ http://www.tourdoi.com/webboard2/generate.cgi? content=0571&board=board_1

เมื่อตกลงใจกันได้แล้ว พระรูปหนึ่งก็เอากรรไกรหนีบหมากที่มีติดย่ามย่องเข้าไปใกล้ยักษ์ หวังทิ่มตายักษ์ให้บอด แต่ยังไม่ทันลงมือ แพะทั้งหลายก็พากันวิ่งขวักไขว่ขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้ยักษ์พลอยตื่นไปด้วย โชคดีพระเจ้าของกรรไกรพยายามตั้งสติ จ้วงแทงตายักษ์อย่างไม่ยั้งมือ ทำให้ยักษ์ตาบอดร้องโอยโอยด้วยความเจ็บและโมโหโกรธา

พระสามรูปรีบเปิดประตูหนีออกมา แต่สืบเนื่องจากพระรูปหนึ่งตกกำแพงพิการมาแต่ทีแรก การหนีจึงค่อนข้างทุลักทุเล ทำให้ยักษ์ตามทัน และคว้าเอาตัวพระพิการไปได้ในเวลาไม่นาน

พระที่เหลือวิ่งหนีกระเจิดกระเจิงจนแทบขาดใจตาย ในถ้ำจะมีทางออกทางไหนบ้างไม่เป็นอันได้พิเคราะห์ดู วันเวลาผ่านไปอีกนานเท่าไรไม่มีใครทราบ เพราะไม่รู้จะนับอย่างไร ได้แต่นอนพักบ้าง คลำทางกันมาบ้าง กระเซอะกระเซิงมาเรื่อยๆ จนกระทั่งพบบ่อน้ำเข้าบ่อหนึ่ง น้ำในบ่อใสแจ๋วน่ากินเป็นกำลัง ด้วยความกระหายสุดขีด พระรูปหนึ่งตรงไปที่ขอบบ่อ เอามือทั้งสองวักน้ำดื่มเข้าไปทันที

เท่านั้นเอง…พระคุณเจ้าก็ค่อยๆ เปลี่ยนรูป จากเนื้อตัวที่มีอ่อนมีแข็งอย่างมนุษย์ ก็กลับกลายเป็นก้อนหินไปอย่างเสือช้างบ่างชะนีทั้งหลายที่ยืนนิ่งอยู่เรียงราย

พระรูปสุดท้ายก็ตกใจ ฝืนจุ่มนิ้วลงไปเพื่อพิสูจน์ดู พบว่าน้ำในบ่อเย็นเฉียบ ส่งกระแสแปลบเข้าไปถึงหัวใจ และไม่ช้านิ้วของท่านก็เป็นหินไปต่อหน้าต่อตา

บัดนี้ท่านจึงรู้ว่ามรณะใกล้มาถึงแล้ว สัตว์ต่างๆ รวมทั้งเพื่อนของท่านที่กลายเป็นหินไปที่แท้ก็เพราะสัมผัสกับน้ำมฤตยูเข้าไปนี่เอง เมื่อเห็นว่าอยู่ที่นั่นไม่ปลอดภัยเสียแล้ว ท่านก็รับโซซัดโซเซต่อไปทันที

ได้วนเวียนในถ้ำอยู่นานจนจวนเจียนจะหมดแรง ชั่วขณะหนึ่งหูของท่านก็แว่วได้ยินเสียงหมูร้องดังมาจากข้างบน นี่แสดงว่าผู้คนและสัตว์เลี้ยงคงจะอยู่บนหัวของเราแล้วซี พระผู้โดดเดี่ยวคิดในใจ บางทีถ้าแข็งใจเดินไปอีกนิดอาจได้ขึ้นไปสู่ผิวโลก พบหมู่บ้านเข้าสักแห่งหนึ่งก็ได้

ที่มา:
เอนก นาวิกมูล. (2551). หมอสูน คนดี. กรุงเทพฯ : แสงดาว. (หน้า 133-137)
http://rb-history.blogspot.com/search/label/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%A5

ความเห็นถูกปิด