เรื่องเล่า นางฟ้าหยาด-ท้าวจันทราช ตอนที่ 1
“เมืองฟ้าแดดสูงยาง”
……..ในยุคอดีตของชาวอีสานประมาณช่วงพุทธศตวรรษที่๑๒ ได้มี ๔ ศรีพี่น้องเกิดเป็นโอรสของเจ้าเมืองหรือกษัตริย์แห่ง “เมืองเชียงโสม” พระบิดาชื่อ “ท้าวเชียงคำ” และพระมารดาชื่อ “พระนางสุวรรณเทวี” โดยพระโอรสองค์โตชื่อ “เชียงสา” องค์รองชื่อ “เชียงสอง” องค์ที่สามชื่อ “เชียงสร้อย” และองค์สุดท้องชื่อ “เชียงเชิด”ซึ่งทั้งสี่พี่น้องรักใคร่สามัคคีและช่วยเหลือเกื้อกูลดูแลกันอย่างดีมาก เมื่อโตเป็นหนุ่ม คนโตได้ไปครองเมืองเป็นเจ้าเมืองเชียงสา คนรองก็ได้ไปครองและเป็นเจ้าเมืองเชียงสอง ส่วนเชียงสร้อยสืบทอดมรดกจากบิดามารดา และได้รับการอภิเษกเป็นเจ้าเมืองเชียงโสมคนใหม่นามว่า “ท้าวจันทราช” หรือ “พญาจันทราช” ซึ่งเป็นกษัตริย์หนุ่ม และให้เชียงเชิดเป็น “อุปราช” พญาจันทราชนั้นยังไม่มีพระมเหสี มีแต่นางสนมคอยปรนนิบัติรับใช้ พระองค์ชอบศึกษาหาความรู้ ชอบการต่อสู้ และชอบล่าสัตว์โดยเฉพาะการต่อนกต่อไก่ป่าตามป่าตามดงเป็นประจำ
“เมืองฟ้าแดดสูงยาง”
……..ยังมีเมือง อีกเมืองหนึ่ง คือ “เมืองฟ้าแดด” เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองมีความอุดมสมบรูณ์มาก ผู้ปกครองเมือง คือ “พญาฟ้าแดด” มีพระมเหสีชื่อ “นางจันทาเทวี” หรือ “นางเขียวค่อม” ทั้งสองพระองค์มีพระธิดาแสนสวยชื่อว่า “พระธิดาฟ้าหยาด” หรือ “นางฟ้าหยาด” เป็นผู้ที่มีสิริโฉมงดงามมาก เป็นที่หวงแหนของพระราชบิดาและพระราชมารดามากยิ่งนัก เล่าลือกันว่าพระนางรูปร่างสวยงาม ผิวขาว แขนเรียวคิ้วโก่งดังคันธนู คอปล้อง นมตั้งพองาม ผมดำเลื่อม สลวยเนื้ออ่อนละมุนเหมือนสำลี สวยงามดั่งสวรรค์สร้าง สวยงามดังเทพธิดาหยาดมาจากฟ้ามาเกิดเลยทีเดียว พญาฟ้าแดดให้ช่างสร้างปราสาทเสาเดียวไว้กลางน้ำ โดยใช้หินศิลาแลงในการก่อสร้างบริเวณนี้ปัจจุบันเรียกว่า “โนนฟ้าแดด” นอกนั้นยังมีการขุดสระไว้รอบเมือง และมีสระน้ำให้พระธิดาไว้สรงสนานด้วย เมื่ออาบและเล่นน้ำเสร็จแล้วก็จะขึ้นมาแต่งตัวบนเนินที่ทำไว้ ในปัจจุบันนี้เรียกว่า “โนนสาวเอ้” นอกจากนี้ยังสร้างคูค่ายและเชิงเนิน มีหอรบอย่างแข็งขัน ซึ่งสระที่ขุดไว้ในปัจจุบันเป็นหนองน้ำสาธารณะไปแล้ว พญาฟ้าแดดนั้นหวงพระธิดาฟ้าหยาดราวกับจงอางหวงไข่เลยทีเดียว พระองค์ได้มีพระราชโองการห้ามไม่ให้ผู้ชายคนใดเข้าไปในเขตสวนอุทยานและปราสาทของนางอย่างเด็ดขาด ใครฝ่าฝืนมีโทษประหาร เมืองฟ้าแดดมีเมืองลูกหลวง คือ “เมืองสงยาง” มีต้นยางสูงใหญ่ และสวยงามอยู่รายรอบ บางทีก็เรียก “เมืองสูงยาง” โดยมอบให้พระอนุชาชื่อ “พญาอิสูรย์” หรือ “เจ้าฟ้าระงึม” เป็นผู้ปกครองเมืองนี้ ซึ่งเมืองทั้งสองอยู่ห่างกันประมาณ ๒ กิโลเมตร สามารถช่วยเหลือและป้องกันอริราชศัตรูที่จะมารุกรานได้อย่างสะดวก คนเลยนิยมเรียกรวมกัน “เมืองฟ้าแดดสงยาง” หรือ “เมืองฟ้าแดดสูงยาง”นั้นเอง
……..พระธิดาฟ้าหยาดเมื่อเติบโตเป็นสาววัยประมาณ ๑๕ ปีกว่าๆ ก็รู้สึกในพระทัยแปลกๆและมีนิมิตฝันว่ามีพญางูใหญ่มารัดพระองค์ ทำให้ตกใจกลัวแล้วก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา และได้เล่าความฝันให้พระพี่เลี้ยงฟัง พระพี่เลี้ยงบอกว่าโบราณว่าฝันว่างูรัดจะเจอเนื้อคู่ พระนางเขินอาย แต่จะเจอชายเนื้อคู่ได้อย่างไร เพราะพระบิดาและพระมารดาไม่อนุญาตให้ชายใดได้มีโอกาสพบเจอกับพระนางเลย พระพี่เลี้ยงกับพระธิดาจึงตกลงปลงใจกันว่าให้กระทำ “พิธีเสี่ยงสร้อย”หรือ “เสี่ยงมาลัย” เพื่อหา “เนื้อคู่” โดยให้พระธิดาร้อยดอกไม้พวงมาลัยเป็นสร้อยมาลัย แล้วทำการตั้งสัจอธิษฐาน หากชายใดเป็นเนื้อคู่ของพระนาง ก็ให้ได้พบเจอสร้อยมาลัยและเก็บสร้อยมาลัยนี้ได้ ซึ่งพระนางทำอย่างตั้งใจพิถีพิถันและนำไปไว้ในอุทยานโดยไม่ได้ตั้งความหวังอะไรมากนักว่าจะมีโอกาสเป็นจริง เพราะคิดว่าไม่มีชายใดกล้าเข้ามาในเขตหวงห้ามนี้นั้นเอง
ที่มา : https://sites.google.com/site/zzxzzx23tyutyu57/tanan/nangfa-hyad-thaw-can-thrach
ความเห็นถูกปิด