“โยนีปีศาจ” ตำนานต้นไม้แห่งรัก นำผลไปกดกับทรายคล้ายอวัยวะเพศหญิง
ประชาชนและนักท่องเที่ยวพาครอบครัว เที่ยวสะพานแขวนลาวาข้ามปากปล่องภูเขาไฟที่มอดดับสนิทแล้วกว่า 7 แสนปีในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์คึกคัก พร้อมศึกษาต้นไม้ในตำนาน “โยนีปีศาจ” ที่หาชมได้หากอีกด้วย
(17 มิ.ย.61) วันหยุดสุดสัปดาห์ ประชาชนและนักท่องเที่ยว แห่ชมสะพานแขวนลาวาข้ามปากปล่องภูเขาไฟที่มอดดับสนิทมาแล้วกว่า 7 แสนปี ที่วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ อย่างคึกคัก อีกทั้งยังได้ขึ้นไปกราบสักการะพระสุภัทรบพิตร พระคู่บ้านคู่เมืองที่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขากระโดง เพื่อความเป็นสิริมงคลด้วยนอกจากนี้บริเวณยอดภูเขาไฟกระโดง ยังมีต้นไม้ในตำนานที่หาชมได้ยาก ชื่อว่าต้น “โยนีปีศาจ” หรือภาษาพื้นถิ่นชาวเขมรเรียกว่าต้น “กะ-นุย-ขะ-มอย” ให้นักท่องเที่ยวได้ชมและศึกษาประวัติความเป็นมา ซึ่งตามตำนานเรื่องเล่า ต้นโยนีปีศาจดังกล่าว เป็นต้นไม้ตำนานรักระหว่าง “ท้าวปาจิต โอรสแห่งนครธม กับ นางอรพิม หญิงสาวสามัญชน ที่ทั้งสองมีความรักต่อกัน แต่กลับมีเหตุให้ต้องพลัดพรากจากกัน ทั้งต้องผจญภัยฟันฝ่าอุปสรรค ซึ่งเป็นเรื่องราวปาฏิหาริย์เป็นเวลากว่า 7 ปี แต่ระหว่างที่ต้องผจญภัยในป่า นางอรพิม เกรงว่าจะเกิดอันตราย จึงอธิษฐานจิตขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แปลงร่างให้เธอเป็นชาย โดยขอให้บางส่วนที่เป็นหญิงหลุดหายไปจากร่าง จากนั้นอรพิม ก็ได้นำโยนีหรืออวัยวะเพศหญิง ไปฝากไว้ที่ต้นมะกอกโคก หรือต้นโยนีปีศาจดังกล่าว เมื่อรอดชีวิตออกจากป่าได้ ในที่สุดอรพิม ก็ได้กลับมาเป็นหญิง และครองรักกับท้าวปาจิตเหมือนเดิมซึ่งต้นโยนีปีศาจ เป็นไม้ประเภทยืนต้น ลักษณะไม้เปลือกแข็ง ลำต้นสูงใหญ่ จะเริ่มออกดอกในระยะต้นของเดือนพฤษภาคม ลักษณะของผลคล้ายๆ ลูกมะกอก ขนาดประมาณ 3-5 เซนติเมตร เมื่อลูกสุกประมาณเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม จะหล่นลงมาและแตกออกเป็นสองซีก เมื่อนำไปกดกับดินทรายดูจะปรากฏรอยคล้ายอวัยวะเพศหญิง มีเฉพาะในประเทศไทย พบตามซากภูเขาไฟเก่าเท่านั้น
ขอคุณข้อมูล:https://www.springnews.co.th/society/287711
ความเห็นถูกปิด